ดูเหมือนว่าอีกหนึ่งโครงการด้านคริปโตในประเทศจีนจะถูกทางการจับกุมตัวไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้ ในข้อหาหลอกลวงเงินจากนักลงทุน
โดยอ้างอิงจากหนังสือพิมพ์กวางตุ้งเดลี่ ตำรวจในเมืองเสินเจิ้นได้จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยพวกเขาได้ทำการหลอกลวงนักลงทุนชาวจีนไปแล้วกว่า 3,000 รายด้วยการขายเหรียญ cryptocurrency ที่อ้างว่ามีสินทรัพย์มาแบคไว้ คิดเป็นความเสียหายมูลค่ากว่า 47 ล้านดอลลาร์
ผู้ต้องหาทั้งหมดหกรายได้ก่อตั้งบริษัทในเมืองเสินเจิ้นนามว่า PEB ที่เปิดทำงานในเดือนมกราคม 2017 โดยออกเหรียญคริปโตนามว่า Pu’er Coin อ้างอิงจากรายงาน
บนเว็บไซต์ของพวกเขากล่าวว่าผู้ที่ซื้อเหรียญดังกล่าวไปนั้นจะเปรียบเสมือนเป็นการถือสัญญาที่บ่งบอกถึงความเป็นเจ้าของในใบชา Pu’er Tibetan ที่ทางบริษัทได้เก็บไว้ในคลังที่พวกเขาอ้างว่ามีมูลค่ากว่าพันล้านดอลลาร์
นักลงทุนถูกบอกว่าเหรียญดังกล่าวจะสามารถนำไปซื้อขายกันได้ในเว็บเทรดนาม Jubi.com ในขณะที่อีกเว็บไซต์หนึ่งอ้างว่าสัญญาดังกล่าวสามารถที่จะให้ผลตอบแทนต่อนักลงทุนถึง 12% ต่อปี ถ้าหากนักลงทุนเลือกที่จะล็อคเหรียญของพวกเขาไว้ 1 ปี
โดยอ้างอิงจากตำรวจนั้น แม้ว่าทางบริษัทจะมี “จำนวนใบชาที่น้อยมาก ๆ เก็บไว้อยู่” แต่พวกเขาก็โฆษณาสัญญาที่จะให้ผลตอบแทนต่อนักลงทุนผ่านโซเชียล และการออกโร้ดโชว์ที่โรงแรมต่าง ๆ
ตำรวจเสินเจิ้นเผยว่าโครงการของพวกเขาได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมากด้วยการปั่นราคาตลาดด้วยเงินของพวกเขาเอง ทำให้ราคาของเหรียญที่ว่านี้พุ่งขึ้นไปกว่า 20 เท่าในช่วงปีที่ผ่านมา
ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยได้รับคำเตือนจาก State Administration for Market Regulation ในจีนมาแล้วเกี่ยวกับการห้ามปั่นราคาตลาด
ภายหลังทางการจีนทำการปรับบริษัทดังกล่าวเป็นเงิน 20 ล้านดอลลาร์ข้อหาโฆษณาเหรียญที่ถูกแบคด้วยใบชาที่ไม่มีอยู่ตามที่โฆษณาไว้
การจับกุมล่าสุดนั้นแสดงให้เห็นถึงความพยายามของทางการจีนในการกวาดล้างผู้ฉวยโอกาสกระแสคริปโตเพื่อทำการหลอกลวงคนในประเทศผ่านการระดมทุนด้วยโทเค็นนั่นเอง
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น