Shytoshi Kusama นักพัฒนาชั้นนำของ Shiba Inu กล่าวยกย่องความสำเร็จของ Shibarium ซึ่งเป็นเครือข่ายบล็อกเชน Layer-2 ที่ขับเคลื่อนระบบนิเวศของ Shiba Inu
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา Shytoshi Kusama เปิดเผยว่า Shibarium ได้รับการประมวลผลธุรกรรมไปแล้วเกือบ 800 ล้านรายการ ซึ่งตัวเลขดังกล่าว มีจำนวนมากกว่าธุรกรรม Cardano ของ Charles Hoskinson ถึง 8 เท่า
ความคิดเห็นนี้เป็นการตอบกลับชุมชน Shiba โดยผู้ใช้งานชื่อ Murat Aydın ซึ่งแสดงความกังวลเกี่ยวกับความชัดเจนของโร้ดแมป Shibarium โดยวิจารณ์ว่า ทีมงานยังไม่สื่อสารเรื่องการทดสอบระบบอย่างชัดเจน และยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับประโยชน์ของโทเค็น BONE ที่ใช้เป็นค่าธรรมเนียมแก๊สสำหรับการทำธุรกรรม
Shytoshi Kusama ตอบกลับคำวิจารณ์นี้ ด้วยการปฏิเสธความคิดที่ว่า Shibarium ยังอยู่ในระหว่างขั้นตอนการทดสอบ โดยระบุว่า “คุณบอกว่า Shibarium กำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบอยู่เหรอ? พี่ชาย ธุรกรรมของเรามีถึง 700 ล้านรายการแล้วนะ”
นอกจากนี้ เขายังเน้นย้ำถึงความพยายามของทีมงาน ที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง เช่น การปรับปรุงเว็บไซต์ใหม่ และการเปิดตัวพอดแคสต์เพื่อตอบข้อกังวลของชุมชน รวมถึงการเน้นย้ำถึง “เทคโนโลยีอันน่าทึ่ง”
นอกจากนี้ ยังมีความคาดหวังในกลุ่ม SHIB Army ถึงการเปิดตัวโทเค็น TREAT ซึ่งจะเปิดตัวในอีกไม่ถึง 3 วัน โดย TREAT ย่อมาจาก “Transactional Rewards for Engagement and Access Token” ออกแบบมา โดยมีเป้าหมายเพื่อให้รางวัลและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานในโปรเจกต์ต่าง ๆ ของ Shibarium โดยโทเค็นนี้คาดว่า จะถูกลิสต์ในเว็บเทรดคริปโตใหญ่ ๆ เช่น Bitget, Gate, KuCoin และ MEXC
ในบล็อกโพสต์วันเดียวกัน Shytoshi Kusama ได้ขยายมุมมองของระบบนิเวศ Shiba Inu โดยแนะนำแนวคิด “36 Chambers of Tech” และ “WHY Combinator” ที่มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อแข่งขันกับเครือข่ายบล็อกเชนขนาดใหญ่ รวมถึง AI, เกม Web3, เมตาเวิร์ส, โซลูชันสำหรับการยืนยันตัวตนแบบกระจายศูนย์ และอื่น ๆ
Shytoshi Kusama ยังอธิบายถึงความสำคัญของ TREAT ในระบบนิเวศนี้ว่า เป็นโทเค็นที่ใช้กระตุ้นการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งาน ผ่านรางวัลรายสัปดาห์ที่เรียกว่า “TreatDrops” พร้อมทั้งมอบสิทธิ์การเข้าถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ภายในเครือข่าย
แม้ว่าโฟกัสจะอยู่ที่ TREAT แต่ Shytoshi Kusama ก็ยังเน้นย้ำถึงบทบาทสำคัญของ BONE ในฐานะโทเค็นแก๊สของ Shibarium พร้อมทั้งบอกใบ้ถึงการพัฒนาที่จะเกิดในอนาคต เช่น โซลูชัน Layer 3 และ optimistic rollups ที่ช่วยให้ธุรกรรมเกิดขึ้นโดยตรงบน Shibarium ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพของ $BONE ให้มากขึ้น
Shytoshi Kusama ยังเปรียบ Shibarium กับเลเยอร์ข้อมูลอย่าง Celestia พร้อมพูดถึงการเชื่อมต่อข้ามเชน (Cross-Chain) ที่จะทำได้ด้วย Chainlink ซึ่งจะยกระดับ Shibarium ให้เป็นศูนย์กลางสำหรับโปรเจกต์บล็อกเชนในอนาคต
“ลองจินตนาการดูว่า ถ้าเรามอบประโยชน์นี้ให้กับ BONE จะเป็นอย่างไร” Shytoshi Kusama กล่าว
จากข้อมูลล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่า Shibarium ประมวลผลธุรกรรมไปแล้วเกือบ 800 ล้านครั้ง เครือข่ายนี้กำลังสร้างฐานที่มั่นคงในฐานะคู่แข่งสำคัญในวงการบล็อกเชน ซึ่ง Shytoshi Kusama เน้นย้ำถึงความก้าวหน้าที่รวดเร็ว และวิสัยทัศน์ที่ทะเยอทะยานของระบบนิเวศนี้ พร้อมตั้งเป้าสู่การเติบโตครั้งใหญ่ในปี 2025
ที่มา : zycrypto