รายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ล่าสุดในเดือนธันวาคมได้ส่งผลสะเทือนต่อทั้งตลาดการเงิน และทำให้กลยุทธ์ควบคุมเงินเฟ้อของ Federal Reserve ถูกตั้งคำถามอีกครั้ง
โดยทางด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า CPI รายเดือนเพิ่มขึ้น 0.4% หลังปรับฤดูกาล ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 0.3% และสูงกว่าค่าก่อนหน้าที่ 0.3% ด้วยเช่นกัน ในขณะที่เงินเฟ้อรายปีพุ่งขึ้นเป็น 2.9% จาก 2.7% ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งนับเป็นอัตราสูงสุดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2024
Federal Open Market Committee (FOMC) ได้เน้นย้ำว่า พวกเขาไม่สามารถยอมรับเงินเฟ้อที่เกินเป้าหมาย 2% ได้ ซึ่งการเพิ่มขึ้นของ CPI ในครั้งนี้จึงทำให้ความหวังของนักลงทุนที่คาดการณ์ว่า Fed อาจหยุดหรือย้อนกลับการขึ้นอัตราดอกเบี้ยกลายเป็นเรื่องที่ยากขึ้น
ในขณะที่ตลาด Cryptocurrency ก็ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์นี้เช่นกัน โดยเฉพาะราคา Bitcoin ที่มักได้รับผลกระทบจากการปรับนโยบายการเงินของ Fed ซึ่งการขึ้นดอกเบี้ยและการควบคุมเงินเฟ้อที่เข้มงวดมักสร้างแรงกดดันต่อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง
อ้างอิงข้อมูลจาก CoinmarketCap ในตอนนี้ Bitcoin มีราคาซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 98,891 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.95% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ด้วยสถานการณ์ที่เงินเฟ้อยังคงสูงขึ้นและ Fed ยังคงเข้มงวดในแนวทางของตน ตลาดคริปโตอาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงอย่างรุนแรงในช่วงเวลานี้ หากไม่มีการปรับตัวหรือกลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต
ทั้งนี้ บทความดังกล่าวเป็นเพียงแค่การเสนอข่าวเท่านั้น การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนอาจเสียเงินทั้งจำนวนได้ ดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาและประเมินความเสี่ยงก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใดๆ อยู่เสมอ
ที่มา: Cryptopolitan