Delphi Digital บริษัทด้านการลงทุนและวิเคราะห์ตลาดชั้นนำ เพิ่งเปิดตัวรายงานการคาดการณ์ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีในปี 2025 โดยระบุถึงแนวโน้มสำคัญที่อาจกำหนดทิศทางอนาคตของอุตสาหกรรมแห่งนี้ พร้อมชี้ให้เห็นถึงจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาด และโอกาสใหม่ ๆ สำหรับนักลงทุน
1 BTC ยังไปได้ต่อ
Delphi Digital ระบุว่ากราฟของ Bitcoin ยังคงสอดคล้องกับสิ่งที่พวกเขาคาดการณ์ โดยพวกเขามองว่า ราคาจะยังคงวิ่งต่อไปได้ เนื่องจากสถาบันการเงินและการผ่อนปรนการกำกับดูแลจะเป็นตัวผลักดันราคาในวัฏจักรนี้
พวกเขายังชี้ให้ว่าทุกครั้งที่ราคามีการ breakout จากยอดเก่าจะทำให้ค่า RSI รายเดือน สูงขึ้นมากกว่า 70 และจาก Bullrun รอบที่แล้วก็ยังไม่จบจนกว่าค่าดังกล่าวจะทะลุ 90 และอ้างอิงจาก channel เดือนของ Bitcoin ยังจะเห็นได้ว่าราคา Bitcoin ยังต่ำกว่าจุด deviation ที่เป็นสัญญาณ Top signal
2 Solana อยู่ในแค่ช่วงเริ่มต้นเท่านั้น
ถัดมากับเหรียญมาแรงอย่าง Solana ทาง Delphi คาดการณ์ว่า SOL จะยังคงทำผลงานได้เหนือกว่า Ethereum อันเป็นผลมาจาก UX และการทำงานที่เหนือกว่าไม่ต้องเสียเวลา wrap หรือทำการอนุญาต ขณะเดียวกัน SVM (Solana Virtual Machine) ยังเป็นระบบนิเวศที่เติบโตเร็วที่สุดใน altVM อีกด้วย และนั่นยังไม่รวมถึงการพัฒนาของ Anza, Firedancer, และ Wallet ต่างๆ ที่ทำให้เครือข่ายใช้งานได้ง่ายขึ้น มากไปกว่านั้นทางทีมยังมีแผนที่จะอัพเกรด bandwidth และลดความหน่วงของเชน ทำให้สามารถสู้กับคู่แข่งหน้าใหม่ได้
3 NFTs คัมแบกฟื้นตัวจากก้นหลุม
Delphi คาดการณ์ว่าตลาด NFTs จะกลับมาอีกครั้งในปีนี้แต่กระแสจะถูกโหมด้วยอารมณ์ของนักเทรดไม่ใช่ปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งในตอนนี้โปรเจกต์ที่เริ่มกลับมาแล้วจะประกอบไปด้วย Pudgy Penguins , Azuki เป็นต้น นอกจากนั้น NFTs ยังจะเป็นมิตรกับนักเทรดรายย่อยมากขึ้น รวมไปถึงอาจนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้งานร่วมกับสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น ผลงานศิลปะ หรือไวน์รุ่นพิเศษที่สามารถนำมา Tokenized ได้
4 DeFi จะกลายเป็น DeFAI
วงการ DeFi จะต้องเปลี่ยนไปเมื่อ AI จะเข้ามาเปลี่ยนการใช้งานของผู้ใช้กับโปรเจ็ค DeFi ต่างๆ ทางฝั่งหน้าเว็ป เช่นการมี AI agent เข้ามาช่วยในการเทรด โดยอนาคตการจัดสรรทุนส่วนใหญ่จะถูกกระทำผ่าน AI Agent โดยตรง
5 AI Agent จะแข่งกันเทรดแทนมนุษย์
ถัดมากับการเปลี่ยนแปลงในวงการเทรดที่ Delphi คาดว่าในปี 2025 จะเป็นจุดเริ่มต้นของยุคสมัยการแข่งกันเทรดของ AI ไม่ใช่มนุษย์แข่งกันอีกต่อไป เพราะ AI สามารถเทรดได้ตลอด 24/7 และมีการประมวลผลข้อมูลที่มากกว่าหลายเท่า กลายเป็นว่าในอนาคตจะเป็นการแข่งขันกันว่า AI ใดมีฐานข้อมูลและพลังการประมวลผลสูงกว่ากัน และในปัจจุบันมีโปรเจกต์กว่า 3 ตัวแล้วที่ถูกประเมินว่ามีมูลค่าถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์
6 บล็อกเชนหัวแถวจะเป็นผู้ขับเคลื่อนนวัตกรรม
Delphi ระบุว่าพวกเขาได้จับตามองบล็อกเชนต่าง ๆ เหล่านี้ เช่น Hyperliquid, Sui, Monad และ Berachain เพราะเชนที่มีการรับปริมาณข้อมูลได้มากเหล่านี้จะช่วยขับเคลื่อนการทดลองและนวัตกรรมใหม่ ๆ ขณะเดียวกันโปรเจกต์ MegaETH นั้นก็น่าจับตามองเช่นกันแต่พวกเขาจะเข้ามากินส่วนแบ่งตลาดใน L2 แทนที่จะเป็น L1
7 DePin จะกลับมา
ถัดมาพวกเขาชี้ให้เห็นว่าอาจจะมีโปรเจกต์ DePin ขนาดใหญ่ตัวหนึ่งที่สามารถพึ่งพาตนเองเป็นผลสำเร็จซึ่งจะทำให้ให้ทั้งเซคเตอร์ DePin กลับมาผงาดตามกันอีกครั้งหนึ่ง และการมาในครั้งนี้ของ DePin อาจสามารถ Disrupt ได้ทั้ง wireless services , network infrastructure , mapping , healthcare, และ grid operations. โดยโปรเจกต์ที่น่าจับตาจะประกอบไปด้วย Helium, Double zero, Hivemap
8 ปี 2025 จะเป็นจุดเปลี่ยนของ zkVM
zkVM จะช่วยปรับปรุงการทำงานร่วมกันระหว่างการ rollups ซึ่งจะช่วยให้การโต้ตอบระหว่างเครือข่ายเป็นไปอย่างราบรื่น นอกจากนี้ zkVMs จะช่วยขยายตลาดนักพัฒนาซอฟต์แวร์อย่างมาก เนื่องจากนักพัฒนาซอฟต์แวร์จะสามารถพัฒนาแอป zk ด้วยภาษาอื่นๆ เช่น Rust ได้
9 AI จะสร้างโอกาศใหม่ให้ GameFi
Delphi มองว่าเทคโนโลยี AI จะช่วยเอื้อประโยชน์ให้กับนักพัฒนาเกมทำให้สามารถยกระดับการพัฒนาได้ และปัจจุบันก็ได้มีการทดลองนำ AI มาประยุกต์ใช้กับ Non playable charaters (NPC) แล้วในบางเกม อีกทั้งโปรเจกต์ดัง ๆ อย่าง Virutal และ Eliza ก็ได้มีการผนวกเข้ากับเอนจิ้นเกม Unreal และ Unity ทำให้มันอาจเป็นจุดเปลี่ยนของ AI gaming
10 DeFi สำหรับผู้บริโภคจะเป็นเป้าหมายใหม่
สุดท้ายนี้ Delphi คาดการณ์ว่า 2025 จะเป็นปีที่ผู้ใช้งานคริปโตจะสามารถทำธุรกรรมใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้แล้วผ่านบล็อกเชน ขณะเดียวกันตัวของ zkTLS จะทำให้ข้อมูลละเอียดอ่อนบน web2 สามารถนำมาใช้บนบล๊อคเชนได้โดยไม่เสียความเป็นส่วนตัวบน Web3 และโปรเจกต์ Stablecoin ที่มีระบบแชร์รายได้จะเติบโตมากขึ้นเพราะมีผลประโยช์นกับทั้งผู้ให้บริการและผู้บริโภค
