ตามรายงานตลาดคริปโตจาก Coinbase ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 29 มกราคม ระบุว่า ในไตรมาสที่ 4 ปี 2024 จำนวนผู้ใช้งานกระเป๋าเงินคริปโตบนมือถือ ได้พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 36 ล้านบัญชี
ผู้ใช้กระเป๋าเงินบนมือถือ แหล่งที่มา: Coinbase
Daren Matsuoka นักวิทยาศาสตร์ข้อมูลจาก a16z Crypto กล่าวว่า “กระเป๋าเงินมือถือมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนเจ้าของคริปโตแบบธรรมดา ให้กลายเป็นผู้ใช้งานที่มีส่วนร่วมกับระบบนิเวศของบล็อกเชน”
ในอดีต ผู้ถือครองคริปโตจำนวนมาก เป็นเพียงนักลงทุนที่สะสมเหรียญไว้โดยไม่ได้นำไปใช้งานจริง แต่เมื่อพวกเขาเริ่มทำธุรกรรมหรือใช้แอปพลิเคชัน DeFi ก็จะถูกนับว่าเป็น ผู้ใช้งานที่มีส่วนร่วมกับบล็อกเชนอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมี บัญชีที่ใช้งานกระเป๋าเงินคริปโตจำนวน 36 ล้านบัญชี แต่จำนวนผู้ถือครองคริปโตทั่วโลกนั้นสูงถึง 560 ล้านคน อ้างอิงตามรายงาน Cryptocurrency Ownership 2024 โดย Triple-A
Pavlo Denysiuk ซีอีโอของ Lunu บริษัทด้านการชำระเงินคริปโต คาดการณ์ว่า จำนวนนักลงทุนคริปโต อาจเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในอีก 2 ปีข้างหน้า หากอัตราการเติบโตของผู้ใช้งานในปัจจุบันยังคงดำเนินต่อไป
Stablecoin เป็น “Killer App” ของวงการคริปโต
ในปี 2024 Stablecoin กลายเป็น Killer App ของอุตสาหกรรมคริปโต เนื่องจากสภาพคล่องที่เพิ่มสูงขึ้น และการใช้งานคริปโต เพื่อการชำระเงินและโอนเงินข้ามพรมแดนที่สูงขึ้น
Coinbase รายงานว่า: “ปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการเติบโตของ Stablecoin คือ ความสามารถในการทำให้การโอนเงินทั่วโลกเร็ว และถูกลงสำหรับทั้งภาคธุรกิจและบุคคลทั่วไป”
กราฟปริมาณอุปทานของ Stablecoin ที่มา: Coinbase
อุปทานของ Stablecoin เพิ่มขึ้น 18% ในไตรมาสที่ 4 ปี 2024 และเกือบแตะระดับ 200,000 ล้านดอลลาร์ ก่อนสิ้นปี
Stablecoin มีบทบาทสำคัญในตลาดคริปโต เนื่องจากเป็นทางเชื่อมสำคัญ สำหรับนักลงทุนในการแลกเปลี่ยนเงินสดไปเป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งการเติบโตของ Stablecoin มักเป็นสัญญาณของแรงซื้อที่เพิ่มขึ้น และความต้องการลงทุนที่สูงขึ้นในตลาดคริปโต
ปริมาณการซื้อขาย Stablecoin ทะลุ 30 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2024 โดยในเดือนธันวาคมเพียงเดือนเดียว มีการซื้อขาย Stablecoin มูลค่ากว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางกระแส Bitcoin ทะยานแตะระดับ 100,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
อย่างไรก็ตาม Coinbase เน้นย้ำว่า กฎระเบียบที่ชัดเจนจะเป็นกุญแจสำคัญในการขยายการใช้งาน Stablecoin และสร้างโอกาสให้กับประชากรที่ยังเข้าไม่ถึงระบบธนาคารแบบดั้งเดิม
ที่มา : cointelegraph