รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ยังคงเดินหน้าสะสม Bitcoin (BTC) อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ซื้อBitcoin (BTC) เพิ่มอีก 12 BTC ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ท่ามกลางภาวะตลาดคริปโตที่กำลังย่อตัว โดยซื้อ Bitcoin (BTC) จำนวน 11 BTC ในราคาเฉลี่ย 101,816 ดอลลาร์ ต่อเหรียญ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1.1 ล้านดอลลาร์ จากนั้นก็ซื้อเพิ่มอีก 1 BTC ในราคา 99,114 ดอลลาร์ตามข้อมูลจาก Bitcoin Office ของรัฐบาล
การซื้อครั้งนี้ทำให้เอลซัลวาดอร์มี Bitcoin สำรองรวมทั้งหมด 6,068 BTC คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 554 ล้านดอลลาร์
โดยล่าสุด Bitcoin Office ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย X ระบุว่า “สัปดาห์นี้ เอลซัลวาดอร์ได้ซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 21 BTC!” พร้อมเปิดเผยว่า ภายใน 30 วันที่ผ่านมา ประเทศได้สะสม Bitcoin เพิ่มขึ้นจำนวน 60 BTC
โพสต์ดังกล่าวยังเน้นย้ำว่า “กองทุนสำรอง Bitcoin เชิงกลยุทธ์แห่งแรกของโลกกำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และเอลซัลวาดอร์ก็ยังคงชนะต่อไป”
ขณะที่ราคาของ Bitcoin ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 96,000 ดอลลาร์ ก่อนจะดีดตัวกลับขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 98,000 ดอลลาร์ แต่ก็ยังต่ำกว่าระดับสูงสุดของวันที่ 100,700 ดอลลาร์ ตามข้อมูลจาก CoinGecko
การเข้าซื้อ Bitcoin เพิ่มขึ้นนี้ เกิดขึ้นไม่นานหลังจาก ประธานาธิบดี Nayib Bukele ของเอลซัลวาดอร์ สามารถทำข้อตกลงด้านการเงินมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ กับ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้สำเร็จเมื่อเดือนที่ผ่านมา โดยมีเงื่อนไขว่ารัฐบาลจะต้อง ลดบทบาทในการดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Bitcoin ลงบางส่วน
ส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงที่เอลซัลวาดอร์ดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขของ IMF คือ ยกเลิกการบังคับให้ภาคเอกชนต้องยอมรับ Bitcoin เป็นช่องทางชำระเงิน และลดบทบาทของรัฐใน Chivo Wallet ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินคริปโตที่รัฐบาลเปิดตัวมาเพื่อใช้งาน Bitcoin ภายในประเทศ
ที่มา : cointelegraph