บล็อกเชน Ethereum ระบบนิเวศที่มีมูลค่าใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก กำลังจะได้รับการอัปเกรดเครือข่ายครั้งใหญ่อย่างเร็วที่สุดในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ หากการทดสอบเป็นไปได้อย่างราบรื่น โดยจะใช้ชื่อการอัปเกรดว่า “Pectra”
Pectra เป็นการอัปเกรด Ethereum ให้สามารถทำงานได้ดีขึ้นในหลายแง่มุม และทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานได้สะดวกขึ้น อีกทั้งยังเป็นการ hard fork ครั้งที่ 3 นับตั้งแต่การอัปเกรด The Merge ในปี 2022 โดยเดิมทีนั้นทางทีมพัฒนามีความคิดที่จะแบ่งการอัปเกรดออกเป็น Prague และ Electra ก่อนที่จะเปลี่ยนแผนเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ทีเดียวแทน
อ้างอิงข้อมูลจาก Tim Beiko จาก Ethereum Foundation เปิดเผยว่าแผนการทดสอบในชื่อของ Holesky และ Sepholia ได้ถูกกำหนดระยะเวลาทดสอบแล้ว โดย Holesky จะถูกทดสอบในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ และ Sepholia ในวันที่ 5 มีนาคม ซึ่งถ้าหากประสบความสำเร็จ นักพัฒนาหลักของ Ethereum จะเข้าหารือกันในวันที่ 6 มีนาคม เพื่อสรุปวันปล่อยตัวอัปเดตอย่างเป็นทางการ
อะไรคือสิ่งที่นักลงทุนต้องรู้?
การอัปเกรด Pectra จะประกอบไปด้วยข้อเสนอการพัฒนาเครือข่าย หรือ Ethereum Improvement Proposals (EIPs) ดังนี้
การแยกส่วนบัญชี (Account Abstraction)
อัปเกรด EIP -7702 ได้นำเสนอการการแยกส่วนบัญชี ซึ่งจะทำให้บัญชีที่ควบคุมโดยบุคคลภายนอก (Externally Owned Accounts หรือ EOAs) สามารถยืนยันโค้ด Smart Contractได้โดยตรง ด้วยคุณสมบัตินี้ ผู้ใช้จะสามารถชำระค่าธรรมเนียมธุรกรรมโดยใช้โทเค็นต่างๆ ได้ที่ไม่ใช่แค่ ETH เท่านั้น
ในขณะเดียวกัน นักพัฒนาจะสามารถจัดกลุ่มธุรกรรม (transaction batching) และสามารถใช้งานค่าธรรมเนียมที่ผู้สนับสนุนออกให้ (sponsored gas fees) ได้
ความสามารถในการปรับขนาดเลเยอร์ 2
ข้อเสนอ EIP-7742 จะเข้ามาช่วยเพิ่มขนาดของ “blobs” ซึ่งใช้ในการเก็บข้อมูลธุรกรรมจาก 3 ต่อบล็อกเป็น 6 ต่อบล็อก โดยเมื่อพื้นที่มีการจัดเก็บมากขึ้นจะส่งผลให้การทำธุรกรรมเร็วขึ้นและมีค่าธรรมเนียมที่ถูกลง
การปรับปรุงระบบผู้ตรวจสอบ
ข้อเสนอ EIP-7751 จะเพิ่มขีดจำกัด ETH ที่ validator ใช้ในการ stake จาก 32 ETH เป็น 2,048 ETH โดยการอัปเดตนี้ช่วยให้ผู้ตรวจสอบความถูกต้องรายใหญ่สามารถปรับขนาด และจัดการการดำเนินงานได้ดีขึ้น รวมถึงปรับปรุงกระบวนการตั้งค่าผู้ตรวจสอบความถูกต้องรายใหม่ ทว่า แม้ว่าการอัปเดตนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ก็อาจนำมาซึ่งการรวมศูนย์อำนาจและอาจส่งผลต่อภูมิทัศน์การกระจายอำนาจของ Ethereum
ขณะเดียวกัน อัปเกรด EIP-7002 จะเข้ามาช่วยปรับปรุงกระบวนการถอนเงินของผู้ตรวจสอบความถูกต้องภายในเครือข่าย ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสบการณ์ผู้ใช้สำหรับผู้ที่ทำการ stake
ในขณะที่ EIP-6110 จะปรับปรุงกระบวนการฝากเงินของผู้ตรวจสอบ โดยเปลี่ยนจากระบบโหวนแบบเก่าอย่าง voter mechanism ที่ใช้กันใน consensus layer ให้กลายเป็นลิสต์ที่จะถูกส่งมาในบล็อกและเพิ่มเข้าไปใน Execution Layer
“การอัปเกรดนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ Ethereum staking มีการปรับปรุงที่สำคัญเท่านั้น แต่ยังถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีผลกระทบมากที่สุดต่อเลเยอร์ Consensus นับตั้งแต่ the Merge อีกด้วย” Luca Sorlini หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ Northstake กล่าว ในระหว่างการสัมภาษณ์
การปรับปรุงด้านเทคนิคัล
EIP-2537 จะใช้กลไกแบบดั้งเดิมที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยภายในเครือข่าย ในขณะที่ EIP-2935 ได้เสนอวิธีการให้บริการและบันทึกประวัติการจัดเก็บแฮชบล็อกในอดีต ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมของ Ethereum Virtual Machine
Dom Harz ผู้ร่วมก่อตั้ง Build on Bitcoin เอ่ยชื่นชมการอัปเกรด Pectra ว่าเป็นการพัฒนาในทิศทางที่ถูกต้อง ซึ่งมันจะช่วยให้ Ethereum สามารถใช้งานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะที่ค่าธรรมเนียมไม่สูงจนเกินไป ซึ่งเราก็ต้องติดตามกันดูต่อไปว่าการอัปเกรดครั้งนี้จะส่งผลอย่างไรต่อระบบนิเวศของ Ethereum
ที่มา : The Defiant