Peter Brandt นักเทรดสินค้าโภคภัณฑ์รุ่นเก่าที่อยู่ในธุรกิจซื้อขายมาตั้งแต่กลางทศวรรษ 1970 ได้แบ่งปันข้อมูลสำคัญบางอย่างกับชุมชนคริปโต
เขาเน้นย้ำว่ามันเป็นเพียง “ความคิด ไม่ใช่การซื้อขาย” เขาเปิดเผยเงื่อนไขสำคัญที่ต้องปฏิบัติตามเพื่อให้คริปโตเคอร์เรนซีเรือธงของโลกอย่าง Bitcoin สามารถพุ่งขึ้นสู่ระดับราคา 200,000 ดอลลาร์และสูงกว่านั้นภายในสิ้นทศวรรษนี้
ปัจจัยสำคัญที่จะนำ Bitcoin ไปสู่เหนือ 200,000 ดอลลาร์
Brandt ได้แชร์กราฟที่แสดงวิถีราคา Bitcoin ตั้งแต่ปี 2012 และเส้นโค้งของเส้นแนวต้านแบบพาราโบลิก ซึ่ง BTC เผชิญกับจุดสูงสุดของราคาทุกครั้ง และหลังจากนั้นก็ตามมาด้วยการปรับฐานครั้งใหญ่ การดึงกลับราคาแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณหนึ่งหรือสองปี
Peter Brandt เชื่อว่าเว้นแต่ Bitcoin จะสามารถ “หลุดพ้น” ผ่านเส้นแนวต้านแบบพาราโบลิกด้านบน BTC “ไม่น่าจะซื้อขายเหนือ 200,000 ดอลลาร์ในตอนท้ายของทศวรรษนี้” เขากล่าว
เมื่อวันที่ 20 มกราคมปีนี้ Bitcoin ทำราคาสูงสุดตลอดกาลที่ 109,114 ดอลลาร์ และปัจจุบันซื้อขายที่ 96,606 ดอลลาร์ โดยพื้นฐานแล้ว นักเทรดชื่อดังสันนิษฐานว่าภายในอีกหลายปีข้างหน้า (ห้าปีหรือน้อยกว่า) Bitcoin อาจพุ่งขึ้นมากกว่า 2 เท่าและแตะ 200,000 ดอลลาร์ หากสามารถเอาชนะเส้นแนวต้านแบบพาราโบลิกได้
หกเส้นทางสู่ Bitcoin Omega candle จาก Samson Mow
เมื่อต้นสัปดาห์นี้ Samson Mow ผู้ที่คลั่งไคล้ Bitcoin และหัวหน้า JAN3 ได้เผยแพร่ทวีต ซึ่งเขาแนะนำปัจจัยสำคัญหกประการที่อาจผลักดัน Bitcoin ไปสู่ Omega candle ซึ่งหมายความว่า BTC จะแตะ 1 ล้านดอลลาร์ต่อเหรียญ ตามทวีตก่อนหน้านี้ของ Mow
ในบรรดาปัจจัยทั้งหกนั้น อันดับหนึ่งได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว นั่นคือการสะสม Bitcoin โดยสถาบันโดย Strategy ของ Michael Saylor และ ETF แบบสปอต Mow เชื่อว่าในที่สุดผู้ซื้อเหล่านี้จะสร้างภาวะช็อกของอุปทาน Bitcoin
สองข้อถัดไปในรายการของ Mow เกี่ยวกับทุนสำรอง Bitcoin เชิงกลยุทธ์ – ในระดับรัฐบาลกลางและระดับรัฐ บางรัฐของสหรัฐฯ ได้เริ่มหารือเกี่ยวกับการสร้าง SBR แล้ว
สามประเด็นนั้นตามมาด้วยประเด็นถัดไป Mow เชื่อว่าในที่สุดดอลลาร์สหรัฐจะถูกปรับฐานเป็น Satoshis (หน่วยเล็กๆ ของ Bitcoin) ในที่สุด เขาก็คาดหวังให้รัฐชาติเริ่มใช้ Bitcoin เป็นสกุลเงินประจำชาติโดยอิงจาก FOMO รายการสุดท้ายในรายการของ Mow คือ “การลดค่าเงินทองคำเพื่อซื้อ BTC”
ที่มา: u.today