ปัจจุบันกระแส ‘คลังสำรอง Bitcoin ของสหรัฐฯ’ ซึ่งถูกจัดตั้งขึ้นโดยประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเป็นที่พูดถึงอย่างมาก แต่คำถามสำคัญที่หลายคนสงสัยคือ รัฐบาลจะหาเงินทุนมาซื้อ Bitcoin เพิ่มขึ้นได้อย่างไร โดยไม่สร้างภาระให้กับภาษีประชาชน ตามเงื่อนไขที่ถูกระบุไว้
ล่าสุด VanEck บริษัทจัดการการลงทุนชื่อดัง จึงได้เสนอ 6 แนวทางที่จะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐฯ บรรลุเป้าหมายนี้ได้ โดยไม่กระทบภาษีของประชาชน
1. ประเมินมูลค่า ‘คลังสำรองทองคำใหม่’ เพื่อปลดล็อกเงินทุน
วิธีแรกที่ VanEck เสนอคือการประเมินมูลค่าทองคำที่รัฐบาลถือครองอยู่ใหม่ เนื่องจากปัจจุบันทองคำเหล่านี้ถูกประเมินมูลค่าต่ำกว่าราคาตลาด หากมีการปรับปรุงการประเมินมูลค่า จะทำให้เกิดเงินทุนส่วนเกิน ซึ่งสามารถนำมาใช้ในการซื้อ Bitcoin ได้โดยไม่ต้องพิมพ์เงินเพิ่ม หรือขึ้นภาษี
2. ออกพันธบัตรรัฐบาลที่หนุนหลังด้วย Bitcoin
อีกแนวทางหนึ่งที่น่าสนใจคือ การออกพันธบัตรรัฐบาลที่หนุนหลังด้วย Bitcoin ซึ่งจะดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาซื้อพันธบัตร และนำเงินทุนที่ได้ไปซื้อ Bitcoin เมื่อพันธบัตรครบกำหนด รัฐบาลสามารถจ่ายคืนนักลงทุนเป็น Bitcoin หรือดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ได้ ทำให้เป็นทางเลือกที่ยืดหยุ่นสำหรับนักลงทุน
3. ใช้เงินทุนส่วนเกินของธนาคารกลางสหรัฐฯ
ในช่วงก่อนหน้าปี 2015 ธนาคารกลางสหรัฐฯ เคยมีนโยบายให้เก็บเงินทุนส่วนเกินได้มากกว่าปัจจุบัน VanEck เสนอให้กลับมาใช้นโยบายนี้ เพื่อให้ธนาคารกลางสามารถสะสมเงินทุนส่วนเกิน และนำมาใช้ซื้อ Bitcoin ได้โดยไม่ต้องขออนุมัติจากสภาคองเกรส
4. การเพิ่ม Bitcoin เข้าทุนสำรองระหว่างประเทศของ IMF
ในระดับนานาชาติ VanEck เสนอให้เพิ่ม Bitcoin เข้าไปในทุนสำรองระหว่างประเทศ (SDR) ของ IMF ซึ่งจะทำให้ Bitcoin กลายเป็นสินทรัพย์สำรองระดับโลกที่ได้รับการยอมรับมากขึ้น และเพิ่มความน่าเชื่อถือในฐานะสินทรัพย์ดิจิทัล
5. ขายผลิตภัณฑ์การเกษตรส่วนเกิน โดยเฉพาะ ‘ชีส’ ในสหรัฐฯ
รัฐบาลสหรัฐฯ มีนโยบายสนับสนุนเกษตรกร โดยการซื้อผลิตภัณฑ์การเกษตรส่วนเกิน โดยเฉพาะชีส ซึ่งมีปริมาณมาก VanEck เสนอให้ขายชีสส่วนเกินเหล่านี้ และนำเงินที่ได้มาซื้อ Bitcoin วิธีนี้จะไม่กระทบงบประมาณ และยังช่วยจัดการสินค้าคงคลังส่วนเกินได้อีกด้วย
6. ใช้เงินจากกองทุนรักษาเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยน (ESF)
สุดท้าย VanEck เสนอให้ใช้เงินจากกองทุนรักษาเสถียรภาพอัตราแลกเปลี่ยน (ESF) ของกระทรวงการคลัง ซึ่งใช้ในการจัดการทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ การใช้ ESF ซื้อ Bitcoin จะทำให้รัฐบาลมีความยืดหยุ่นในการสะสม Bitcoin มากขึ้น
แนวทางเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่ามีหลายวิธีที่รัฐบาลสหรัฐฯ สามารถซื้อ Bitcoin ได้โดยไม่สร้างภาระให้กับประชาชน บางแนวทางสามารถทำได้ทันที ในขณะที่บางแนวทางต้องมีการเปลี่ยนแปลงระดับนโยบาย แต่ไม่ว่าจะเป็นแนวทางไหน ก็เป็นการเปิดประตูสู่ยุคที่ Bitcoin กำลังจะมีบทบาทสำคัญในคลังสำรองของสหรัฐฯ
ที่มา:coinpedia