<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

M2 สหรัฐฯ ทะลุจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์! เงินล้นระบบ : Bitcoin จะฉวยจังหวะนี้ได้หรือไม่ ?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ หรือที่เราเรียกกันว่า “M2 Money Supply” ได้พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 21.86 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เหตุการณ์นี้ ได้จุดประกายความหวังครั้งใหญ่ให้กับนักลงทุนว่า ราคาของ Bitcoin (BTC) อาจจะพุ่งตามมาติดๆ ในไม่ช้านี้ 

การที่เงินในระบบเพิ่มขึ้นมากมายขนาดนี้ เกิดขึ้นในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นหนี้ของประเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ค่าใช้จ่ายของรัฐบาลที่พุ่งสูงลิ่ว และความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่กำลังคุกคามเสถียรภาพทางการเงิน

ปริมาณเงิน M2 ทุบสถิติใหม่ สัมพันธ์กับราคา Bitcoin อย่างไร?

M2 Money Supply คือตัวเลขที่ใช้วัดปริมาณเงินทั้งหมดที่หมุนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจ โดยจะรวมทั้งเงินสด เงินฝากออมทรัพย์ เงินฝากประจำ และกองทุนรวมต่างๆ ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดของ Barchart รายงานว่าตัวเลขนี้ ได้พุ่งไปแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 21.86 ล้านล้านดอลลาร์

นักวิเคราะห์ชื่อดังบน X ที่ใช้นามแฝงว่า “Tech Lead” ได้ออกมาแสดงความเห็นว่า อัตราส่วนหนี้สินของสหรัฐฯ เทียบกับขนาดเศรษฐกิจ (GDP) ได้พุ่งขึ้นถึงระดับที่สูงที่สุดเท่าที่เคยมีมา 

ตอนนี้รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องจ่ายดอกเบี้ยหนี้ถึง 20% ของรายได้ทั้งหมด ทำให้งบประมาณมีความตึงตัวเป็นอย่างมาก แถมเขายังชี้อีกว่า รายจ่ายของรัฐบาลก็ยังมากกว่ารายรับอยู่ตลอด โดยเขาได้กล่าวเสริมว่า “M2 money supply พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ เครื่องพิมพ์เงินเริ่มทำงานแล้ว!”

ถึงอย่างนั้น ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกลับมองเห็นโอกาสที่สดใสสำหรับ Bitcoin จากข้อมูลเหล่านี้ มุมมองของพวกเขาได้รับการสนับสนุนจากแนวโน้มในอดีตที่แสดงให้เห็นว่า การเติบโตของ M2 มักจะมีความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับราคาของ Bitcoin 

นักวิเคราะห์ Weiss Crypto ระบุว่า “โดยเฉลี่ยแล้ว ปริมาณเงินหมุนเวียนทั่วโลก (M2 Global Money Supply) มักจะนำราคา BTC ไปก่อนประมาณ 12 สัปดาห์ ล่าสุด M2 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 21.86 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งบ่งชี้อย่างชัดเจนว่า BTC อาจพุ่งตามมาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า” ส่วนนักวิเคราะห์ Tech Lead ก็ยืนยันมุมมองเดียวกัน 

แล้วทำไม Bitcoin ถึงมักจะราคาพุ่งขึ้นพร้อมกับ M2? 

เหตุผลก็คือ เมื่อปริมาณเงิน M2 เพิ่มขึ้นมากๆ มันก็จะทำให้มูลค่าของสกุลเงินกระดาษ (Fiat) ลดลง ทำให้คนหันไปมองหา Bitcoin เป็นเหมือนสินทรัพย์ที่เก็บรักษามูลค่าได้ดีกว่า และเมื่อมีสภาพคล่องในตลาดเยอะขึ้น ก็ยิ่งกระตุ้นให้เกิดการเก็งกำไร 

นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยที่ลดลงก็ทำให้การลงทุนแบบเดิมๆ ไม่น่าสนใจเท่าที่ควร ส่งผลให้ความต้องการ Bitcoin เพิ่มขึ้นและดันราคาให้สูงขึ้นไปอีก

ปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้ กำลังสร้างอนาคตที่สดใสให้กับสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Bitcoin ซึ่งก่อนหน้านี้เพิ่งเผชิญกับการปรับฐาน หลังจากทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ $111,917 เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2025

ในขณะที่รายงาน Bitcoin มีการซื้อขายกันอยู่ที่  $104,850 ลดลง 0.67% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap

ที่มา:beincrypto