ธนาคารยักษ์ใหญ่อย่าง Standard Chartered ยังคงมั่นใจว่า ในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 ตลาดคริปโตจะกลับมาเข้าสู่ช่วงขาขึ้น ด้วย 3 ปัจจัยหลักอย่าง: เงินไหลเข้า ETF, กฎหมายที่เป็นใจ และการเร่งสะสม Bitcoin ของบริษัทใหญ่ ๆ
Geoffrey Kendrick หัวหน้าฝ่ายวิจัยของธนาคาร คาดว่า Bitcoin จะพุ่งแตะ $135,000 ภายในสิ้นเดือนกันยายน ก่อนพุ่งต่อถึง $200,000 ภายในสิ้นปี เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากระดับราคาปัจจุบัน
ในไตรมาส 2 ปีนี้ เพียงช่วงเดียวกองทุน ETF ก็ซื้อ Bitcoin ไปรวมกันถึง 245,000 BTC และคาดว่าไตรมาส 3-4 จะซื้อเพิ่มอีก ส่วนบริษัทเอกชนและมหาชนก็เริ่มเก็บสะสมมากขึ้น โดยนอกเหนือจาก Strategy ที่ซื้อไป 69,000 BTC บริษัทอื่น ๆ ก็ซื้อรวมกันถึง 56,000 BTC เลยทีเดียว
Kendrick ยังบอกว่า ตอนนี้นักลงทุนเริ่มมอง Bitcoin เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยตัวจริง เห็นได้จากเงินที่ไหลเข้า ETF ของ Bitcoin แซงหน้า ETF ทองคำไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ เขายังมองว่าวัฏจักรปี 2025 นี้ “ฉีกทุกสูตร Halving” เพราะก่อนหน้านี้ BTC มักใช้เวลาเกือบ 1 ปีครึ่งหลัง Halving ก่อนจะขึ้นไปถึงจุดสูงสุด แล้วค่อยร่วงแรง แต่รอบนี้นักลงทุนสถาบันเข้ามาเยอะ ขาลงอาจไม่รุนแรง เพราะคนเลือกถือยาว ไม่เทขายแบบที่ผ่านมา
อีกปัจจัยหนึ่งที่อาจช่วยหนุนให้ Bitcoin ทะยานสู่ $200,000 คือท่าทีของกฎหมายที่เริ่มเอื้ออำนวยต่อสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งเพียงแค่ในสหรัฐฯ ก็มีประเด็นต่าง ๆ ที่ต้องจับตามากมาย ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนจากทรัมป์ , คลังสำรอง Bitcoin ของสหรัฐฯ , ร่างกฎหมาย stablecoins (GENIUS Act) หรือแม้กระทั่งการเปลี่ยนตัวประธานเฟด ก็ล้วนแล้วแต่จะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมคริปโต

อย่างไรก็ตาม Standard Chartered ไม่ใช่รายเดียวที่ออกมาคาดการณ์ว่า Bitcoin จะพุ่งแตะ $200,000 ในปีนี้ เพราะฝั่งของ Bitwise ผู้จัดการสินทรัพย์คริปโตรายใหญ่ก็ให้มุมมองในทิศทางเดียวกัน
แต่ในขณะที่ Bitwise มองบวกกับอนาคตของ Bitcoin พวกเขากลับมองว่า Ethereum และ Solana ยังห่างไกลจากการทำสถิติราคาสูงสุดใหม่ โดยให้เหตุผลว่าแรงเก็งกำไรและเงินลงทุนจากสถาบันยังคงเทมาที่ Bitcoin เป็นหลัก
ที่มา : The Block

