บริษัท Ripple Labs ประกาศว่า ได้ยื่นขอใบอนุญาตธนาคารกับสำนักงานกำกับดูแลธนาคารของสหรัฐฯ (OCC) หวังขยับเข้าใกล้ระบบการเงินดั้งเดิมมากขึ้น ท่ามกลางกระแสที่วงการคริปโตกำลังหาทางให้ถูกกฎหมาย โดยเฉพาะหลังรัฐสภาเริ่มผลักดันกฎหมายควบคุมผู้ที่ออกเหรียญ Stablecoin ให้อยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยงานระดับชาติ
Brad Garlinghouse ซีอีโอของ Ripple ได้ออกมายืนยันเรื่องดังกล่าวผ่านโพสต์บนแพลตฟอร์ม X เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยระบุว่า “เรายังคงยืนหยัดในแนวทางการปฏิบัติตามกฎระเบียบมาโดยตลอด และในครั้งนี้ก็เช่นกัน เรากำลังยื่นขอใบอนุญาตธนาคารแห่งชาติจาก OCC”
เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า หากใบอนุญาตดังกล่าวได้รับการอนุมัติ ก็จะนับเป็น “มาตรฐานใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” ในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตลาด Stablecoin เนื่องจาก RLUSD ซึ่งเป็นเหรียญ Stablecoin ของ Ripple จะได้รับการกำกับดูแลทั้งในระดับรัฐบาลกลางและระดับรัฐ โดยปัจจุบัน RLUSD ได้รับการกำกับดูแลจากกระทรวงการคลังแห่งรัฐนิวยอร์กอยู่แล้ว
2 วันก่อนหน้านี้ Circle บริษัทผู้ออกเหรียญ Stablecoin เบอร์สองของโลก USDC ก็เพิ่งยื่นขอจัดตั้งธนาคารทรัสต์ระดับประเทศกับ OCC เช่นกัน สอดรับกับที่วุฒิสภาสหรัฐฯ เพิ่งผ่านร่างกฎหมาย GENIUS Act ที่กำหนดให้ผู้ออก Stablecoin รายใหญ่ต้องอยู่ภายใต้การกำกับของ OCC
Jeremy Allaire ซีอีโอของ Circle กล่าวว่า บริษัทต้องการเดินหน้าอย่างเป็นระบบเพื่อเตรียมรับมือกับกฎใหม่ที่กำลังจะมีผล โดยปัจจุบัน Anchorage Digital เป็นบริษัทคริปโตเพียงรายเดียวที่ถือใบอนุญาตธนาคารแห่งชาติอย่างเป็นทางการ
ด้าน Ripple ยังได้ยื่นขอบัญชี Master Account กับธนาคารกลางสหรัฐฯ หากผ่าน จะสามารถถือทุนสำรอง RLUSD กับ Fed โดยตรง เสริมความมั่นคงให้เหรียญ และลดความเสี่ยงในอนาคต
Brad Garlinghouse ซีอีโอ Ripple เผยว่า “การเข้าถึงระบบของ Fed จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นใน RLUSD และปูทางรองรับอนาคต” พร้อมระบุว่าสหรัฐฯ ตอนนี้เริ่มมีทิศทางชัดเจน ต่างจากยุค “Operation Chokepoint 2.0” ที่คริปโตถูกกันออกจากระบบการเงิน
ในขณะที่รายงาน ราคา XRP กำลังซื้อขายอยู่ที่ 2.24 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 2.83% ภายใน 24 ชั่วโมง อ้างอิงข้อมูลจาก coinmarketcap
ที่มา : cointelegraph

