เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ที่น่าจับตามองขึ้นในวงการคริปโต เมื่อวอลเล็ต Ethereum สองใบที่สร้างขึ้นในช่วงเปิดตัวของบล็อกเชนได้ถูกใช้งานอีก โดยมีการโอนเหรียญรวม 1,140 ETH คิดเป็นมูลค่าปัจจุบันที่ 2.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9.4 หมื่นล้านบาท)
วอลเล็ตทั้งสองใบนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2015 ซึ่งเป็นช่วงการเปิดตัวเฟสแรกของ Ethereum ที่เรียกว่า “Frontier” โดยข้อมูลจาก Etherscan ระบุว่า วอลเล็ตเหล่านี้ได้รับเหรียญผ่านธุรกรรมที่ติด tag ว่า GENESIS หมายความว่าวอลเล็ตนี้เป็นส่วนหนึ่งของการแจกจ่ายเหรียญให้กับผู้มีส่วนร่วมในยุคแรกเริ่มของบล็อกเชน หนึ่งในวอลเล็ตดังกล่าวได้รับ 900 ETH มาตั้งแต่ตอนที่ราคาเหรียญยังต่ำกว่า 0.50 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถ้าคิดตามมูลค่าปัจจุบัน ก็ทำกำไรไปแล้วมากกว่าประมาณ 5,058 เท่า
แม้จะเป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อย แต่ยอดคงเหลือของวอลเล็ตสองใบนี้ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะถูกเรียกว่าเป็น “วาฬ” (Whale) หรือ เจ้ามือ ของ Ethereum ซึ่งเป็นคำที่ใช้เรียกวอลเล็ตที่ถือครอง ETH ตั้งแต่ 10,000 เหรียญขึ้นไป หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 25.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม การเคลื่อนไหวของเจ้ามือครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกในในปี 2025 เพราะมันเคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยมีวอลเล็ต Bitcoin หลายวอลเล็ตที่ไม่เคลื่อนไหวมานานถูกนำมาใช้โอน BTC มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ และในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็มีรายงานว่าผู้ใช้งาน Ethereum ยุคแรกอีกรายได้ขายเหรียญที่ถือครองอยู่ออกไปเป็นมูลค่าถึง 27.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นที่น่าจับตามองว่านี่อาจจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาด
นับตั้งแต่การก่อตั้ง Ethereum ได้มีการพัฒนาไปอย่างมาก โดยถือว่าเป็นอีกหนึ่ง chain ที่มีการเคลื่อนไหวและอัปเดตระบบอยู่ตลอด เช่น การเปลี่ยนจากระบบฉันทามติแบบ Proof-of-Work ไปเป็น Proof-of-Stake ที่ประหยัดพลังงานมากกว่าในปี 2022 และล่าสุดยังได้มีการอัปเกรด “Pectra” เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการขยายขนาด, การรองรับ Smart Account และการ Staking นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอใหม่ที่ร่วมร่างโดย Vitalik Buterin เป้าหมายเพื่อกำหนดเพดาน Gas สูงสุดในการทำธุรกรรม
ที่มา: cryptonews