BlackRock บริษัทจัดการสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยสินทรัพย์ภายใต้การบริหารกว่า 11.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ได้เปิดเผยรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ของปี 2025 เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2025 โดยมีไฮไลท์สำคัญคือการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเงินทุนที่หลั่งไหลเข้าสู่กองทุนคริปโตเคอร์เรนซี
ตามรายงานระบุว่า ในไตรมาสที่ 2 เงินทุนไหลเข้าสุทธิ (inflows) ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ iShares exchange-traded funds (ETFs) ที่เป็นคริปโต ได้พุ่งสูงขึ้นถึง 366% มาอยู่ที่ 14 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจาก 3 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสก่อนหน้า การเติบโตนี้ส่งผลให้สัดส่วนของเงินทุนไหลเข้าในกลุ่มคริปโตคิดเป็น 16.5% ของเงินทุนไหลเข้าในกลุ่ม ETF ทั้งหมดของ BlackRock ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งมีมูลค่ารวม 85 พันล้านดอลลาร์ นับเป็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากไตรมาสแรกที่คริปโตมีสัดส่วนไม่ถึง 3% ในด้านรายได้ สินทรัพย์ดิจิทัลได้สร้างค่าธรรมเนียมพื้นฐาน (base fees) ให้กับบริษัทเป็นมูลค่า 40 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 18% จากไตรมาสแรก และคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 1% ของรายได้ระยะยาวทั้งหมดของบริษัท
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมเงินทุนไหลเข้าสุทธิทั้งหมดของ BlackRock กลับปรับตัวลดลง 19% จาก 84 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 1 มาอยู่ที่ 68 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 2 ซึ่งบริษัทชี้แจงว่าเป็นผลกระทบมาจาก “การไถ่ถอนหน่วยลงทุนบางส่วนของลูกค้ารายใหญ่ที่เป็นสถาบันเพียงรายเดียวจากกองทุนดัชนีค่าธรรมเนียมต่ำเป็นมูลค่า 52 พันล้านดอลลาร์”
นายแลร์รี ฟิงก์ ซีอีโอของ BlackRock กล่าวว่า “กองทุน iShares ETFs ของเราครึ่งปีแรกทำสถิติใหม่ในด้านเงินทุนไหลเข้า” และเสริมว่า “เรากำลังดึงดูดนักลงทุนรุ่นใหม่ๆ จากทั่วโลก ผ่านผลิตภัณฑ์อย่างสินทรัพย์ดิจิทัลของเรา และกองทุนที่เพิ่งเปิดตัวในอินเดียผ่านการร่วมทุนอย่าง Jio BlackRock”
ผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ BlackRock ในไตรมาสที่ 2 ไม่ได้สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนมากนัก เนื่องจากตลาดได้รับรู้ถึงความสำเร็จครั้งสำคัญของกองทุนคริปโต ETF มาอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงต้นเดือนมิถุนายน กองทุน Spot Bitcoin ETF ของ BlackRock อย่าง iShares Bitcoin Trust (IBIT) ได้กลายเป็นกองทุน ETF ที่เติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ ข้อมูลจาก CoinShares ยังระบุว่า เงินทุนไหลเข้าในกลุ่มคริปโต ETF ของ BlackRock คิดเป็นสัดส่วนถึง 42% ของเงินทุนไหลเข้าในกองทุนคริปโตทั้งหมดทั่วโลกในช่วงครึ่งแรกของปี 2025 ซึ่งมีมูลค่ารวม 184 พันล้านดอลลาร์ ความเชื่อมั่นในเชิงบวกนี้เกิดขึ้นพร้อมกับการที่ราคา Bitcoin ปรับตัวสูงขึ้น 25% ในไตรมาสที่ 2 หลังจากที่เคยปรับตัวลดลง 12% ในไตรมาสแรกของปี
ที่มา: cointelegraph