Bo Hines ผู้อำนวยการบริหารฝ่ายนโยบาย ของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยว่า คณะทำงานด้านสินทรัพย์ดิจิทัลของประธานาธิบดี ได้จัดทำรายงานฉบับเสร็จสมบูรณ์ครบตามกรอบเวลา 180 วันแล้ว และมีกำหนดเตรียมเผยแพร่สู่สาธารณะในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้
รายงานฉบับนี้ ถูกจัดทำขึ้นตามคำสั่งบริหาร Executive Order 14178 ซึ่งทรัมป์เป็นคนเซ็นลงนามตั้งแต่วันที่ 3 หลังเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมาย เพื่อกำหนดแนวทางด้านการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงการจัดการคลังสินทรัพย์ดิจิทัลของรัฐบาลสหรัฐฯ
กลุ่มทำงานชุดนี้ใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า “President’s Working Group on Digital Asset Markets” ซึ่งประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหลายหน่วยงานของรัฐบาลกลาง ที่ได้รับมอบหมายให้จัดทำรายงานเกี่ยวกับ 2 หัวข้อสำคัญ ได้แก่ แนวทางการกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล และกลยุทธ์ในการบริหารจัดการคลังสินทรัพย์ดิจิทัลของรัฐบาล
แหล่งข่าวระบุว่า รายงานฉบับนี้จะเน้นภาพรวมเชิงนโยบาย เช่น การส่งเสริมการเติบโตเทคโนโลยีภายในประเทศ และการคุ้มครองทางกฎหมาย สำหรับนักพัฒนา DeFi
แม้ว่ารายงานฉบับนี้จะไม่ได้กำหนดนโยบายเชิงบังคับ แต่จะเน้นย้ำถึงความสำเร็จของการผ่านกฎหมาย GENIUS Act และวางกรอบหลักการสำหรับกฎหมายโครงสร้างตลาดที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ รายงานอาจกล่าวถึงประเด็นเฉพาะ เช่น การตีความแนวทางจาก FinCEN ในปี 2019 ที่เกี่ยวข้องกับแอปพลิเคชันบนบล็อกเชนซึ่งไม่มีการควบคุมเงินของลูกค้า
แม้ Bo Hines จะเป็นผู้เผยแพร่รายงานในวันที่ 30 ก.ค. แต่ผู้เขียนรายงานคือ Tyler Williams นักวางนโยบายสายคริปโต ที่มีบทบาทในการร่างแนวทางนโยบายคริปโตที่สำคัญให้ทรัมป์มาตั้งแต่แรก
ปัจจุบัน Tyler Williams ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษให้กับรัฐมนตรีคลัง Scott Bessent และรับหน้าที่ประสานงานระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้รายงานออกมา “สมดุล” และตรงตามเป้าหมายของฝ่ายบริหาร
เนื้อหาในรายงานคาดว่า จะช่วยให้เห็นภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นเกี่ยวกับแผนของรัฐบาลในการเพิ่มคลัง Bitcoin ของประเทศ รวมถึงแนวทางของฝ่ายบริหารในการผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับตลาดคริปโตในอนาคต อาจมีการกล่าวถึงกลยุทธ์การซื้อ Bitcoin โดยไม่ส่งผลกระทบต่องบประมาณ และการนำกองทุน Exchange Stabilization Fund มาใช้เพื่อรองรับการบริหารจัดการคริปโตของภาครัฐ
คณะทำงานชุดนี้ได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ โดยมี Tyler Williams เป็นผู้ดูแลการร่างรายงานหลัก การเผยแพร่รายงานในวันที่ 30 กรกฎาคมนี้จึงถูกจับตามองว่า จะเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนท่าทีของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อทิศทางคริปโตในยุคหลังจากนี้
ที่มา : ainvest

