ข่าวใหญ่จาก Bitcoin Indonesia ที่เพิ่งเปิดเผยบนแพลตฟอร์ม X ระบุว่า ตัวแทนของกลุ่มได้มีโอกาสนำเสนอแนวคิดการใช้ Bitcoin เป็นทุนสำรองของประเทศต่อ สำนักงานรองประธานาธิบดี ของอินโดนีเซีย ซึ่งหนึ่งในไฮไลท์ของการนำเสนอครั้งนี้คือการเสนอให้ใช้ เหมืองขุด Bitcoin เป็นกลยุทธ์สำรองทางเศรษฐกิจ เพื่อเสริมความมั่นคงให้กับประเทศในระยะยาว
กลุ่ม Bitcoin Indonesia ได้โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X (Twitter) ว่า “เราได้รับเชิญให้เข้าไปที่สำนักงานรองประธานาธิบดี เพื่อนำเสนอแนวทางว่า ประเทศจะได้รับประโยชน์จาก Bitcoin อย่างไร”
แนวคิดนี้ทำให้เห็นว่าอินโดนีเซียกำลังศึกษาการใช้ Bitcoin เพื่อผลักดันเศรษฐกิจอย่างจริงจัง โดยเฉพาะในด้าน การทำเหมืองขุด และ การศึกษาเกี่ยวกับ Bitcoin ซึ่งได้รับความสนใจจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล
การเข้าพบปะกับ กีบราน ราคาบูมิง รากา รองประธานาธิบดีของอินโดนีเซีย ถือเป็นก้าวสำคัญในการนำเสนอแนวคิดนี้ โดยตัวแทนของกลุ่ม Bitcoin Indonesia ยังได้อ้างถึงคำทำนายจาก Michael Saylor ผู้ก่อตั้ง MicroStrategy ที่คาดการณ์ว่า Bitcoin อาจมีมูลค่าสูงถึง 13 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2045 หากตลาดยังคงเป็นไปตามที่คาด และอาจพุ่งสูงถึง 49 ล้านดอลลาร์ในกรณีที่ตลาดขาขึ้น ซึ่งเป็นการยืนยันถึงศักยภาพระยะยาวของ Bitcoin ที่สามารถเป็นเครื่องมือขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้จริง
อีกหนึ่งประเด็นสำคัญที่ Bitcoin Indonesia เน้นย้ำคือ การศึกษาเกี่ยวกับ Bitcoin ซึ่งได้มีการพูดถึงการส่งเสริมการศึกษาผ่านการเสวนากับเจ้าหน้าที่รัฐบาลที่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ โดยหนึ่งในเจ้าหน้าที่ได้กล่าวว่า
“อินโดนีเซียจำเป็นต้องเดินหน้าผลักดันการศึกษาเกี่ยวกับ Bitcoin ต่อไปในอนาคต” ซึ่งจะช่วยเพิ่มความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลให้กับประชาชน และเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีใหม่ๆ
หากพูดถึงเศรษฐกิจอินโดนีเซีย แม้ว่าประเทศนี้จะไม่ได้เผชิญกับปัญหาหนี้สาธารณะเหมือนบางประเทศ แต่ก็มี GDP ที่อยู่ที่ประมาณ 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ ทำให้เป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 16 ของโลก และยังมีประชากรกว่า 280 ล้านคน ซึ่งทำให้ Bitcoin อาจกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว
นอกจากนั้น การที่อินโดนีเซียมีทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย เช่น พลังงานน้ำ และ พลังงานความร้อนใต้พิภพ ก็ทำให้การขุด Bitcoin ภายในประเทศสามารถใช้พลังงานที่ยั่งยืนและช่วยสร้างงานได้ โดยการนำทรัพยากรเหล่านี้มาใช้ในการขุด Bitcoin อาจจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ไม่น้อย
แต่ถึงแม้ว่าอินโดนีเซียจะเปิดให้มีการซื้อขายคริปโตได้อย่างถูกกฎหมายแล้ว แต่ก็ยังคง ห้ามใช้คริปโตในการชำระเงิน มาแล้วตั้งแต่ปี 2017 และในปี 2023 ก็ยังย้ำเตือนนักท่องเที่ยวว่าหากใช้คริปโตในการชำระเงินจะถูกดำเนินการตามกฎหมาย
ดังนั้นเราคงต้องติดตามกันต่อไปว่าในอนาคตอินโดนีเซียจะมีการปรับเปลี่ยนกฎหมายในส่วนนี้หรือไม่ เพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตของเทคโนโลยีคริปโตที่กำลังได้รับความนิยมในหลายประเทศทั่วโลก
ที่มา : cointelegraph

