ตลาดคริปโตกลับมาร้อนแรงเต็มพิกัด หลังบิตคอยน์ทำสถิติสูงสุดใหม่ (ATH) ที่ 124,457 ดอลลาร์ เมื่อเช้าวันนี้ (14 สิงหาคม) ท่ามกลางกระแสแรงหนุนจากนโยบายเศรษฐกิจและปัจจัยบวกหลายด้าน ขณะเดียวกัน โปรเจกต์ดาวรุ่งอย่าง Bitcoin Hyper (HYPER) ก็กำลังได้รับความสนใจอย่างล้นหลามในฐานะโอกาสต่อไปสำหรับนักลงทุน
แรงหนุนสำคัญที่ผลักดันให้บิตคอยน์ทะยานขึ้นอีกครั้งคือ กฎหมาย Stablecoin ฉบับสำคัญอย่าง Genius Act และคำสั่งบริหาร (Executive Order) ประธานาธิบดีทรัมป์ที่อนุญาตให้กองทุนบำนาญ 401(k) สามารถลงทุนในคริปโตได้นั้น ส่งผลให้บทบาทของบิตคอยน์ก้าวข้ามการเป็นเพียงแค่สินทรัพย์ดิจิทัลกลายเป็นแหล่งเก็บมูลค่าที่แท้จริง
Bitcoin Hyper คือประตูสู่อนาคตของบิตคอยน์ ด้วยการเชื่อมต่อบล็อกเชนหลักเข้ากับโซลูชั่น Layer-2 ที่ไม่เหมือนใคร โปรเจกต์นี้ใช้ความเร็วของ Solana โดยทำการล็อกบิตคอยน์ (BTC) ไว้บนเครือข่ายหลัก และสร้างเวอร์ชัน Wrapped Bitcoin (WBTC) ที่สามารถนำไปใช้งานบนแอปพลิเคชันต่างๆ ของ Bitcoin Hyper ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง
ปัจจุบัน BItcoin Hyper ระดมทุนไปแล้วกว่า 9 ล้านดอลลาร์ และอาจจะไปถึง 10 ล้านดอลลาร์ในไม่ช้า
นักลงทุนที่เชื่อมั่นใน HYPER จะรู้สึกยินดี เมื่อได้รู้ว่าการพัฒนาโซลูชั่นนี้ ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วเกินคาด โดยทีมพัฒนายืนยันว่า Bitcoin Hyper สามารถรัน dApp ของ Solana ได้โดยตรงบนสถาปัตยกรรม Roll-up ของตัวเอง ซึ่งหมายความว่า นักพัฒนาสามารถสร้างและใช้งานสัญญา Smart Contract ได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องมีการดัดแปลงใดๆ

ในอีกไม่ช้า ตลาดคริปโตอาจได้รับเงินทุนมหาศาลจากคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ที่เปิดทางให้กองทุนบำนาญ 401(k) ซึ่งมีมูลค่ารวมสูงถึง 12.2 ล้านล้านดอลลาร์
หากมีการจัดสรรเงินลงทุนเพียง 10% ของกองทุนดังกล่าวเข้าตลาดคริปโต ก็เท่ากับมีเม็ดเงินไหลเข้ามากกว่า 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่เยอะมาก เมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดคริปโตทั้งหมดที่ประมาณ 4 ล้านล้านดอลลาร์
เมื่อผนวกกับกระแสการเปิดตัว Bitcoin ETF และการเข้าลงทุนของสถาบันต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ปัจจัยเหล่านี้ จะกลายเป็นแรงกระตุ้นครั้งสำคัญที่ทำให้ราคาบิตคอยน์มีโอกาสพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง และโปรเจกต์ที่อยู่ในระบบนิเวศของบิตคอยน์โดยตรงอย่าง Bitcoin Hyper ก็จะได้รับประโยชน์จากกระแสนี้อย่างเต็มที่
ถึงแม้ว่าบิตคอยน์จะได้รับอานิสงส์จากนโยบายเชิงบวกและปัจจัยทางเศรษฐกิจมหภาค แต่ปัจจัยสำคัญที่ผลักดันความต้องการใช้งานอย่างแท้จริงมาจากความไม่แน่นอนของสกุลเงินท้องถิ่นในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งทำให้ Stablecoin กลายเป็นทางเลือกในการรักษามูลค่าเงินสำหรับผู้ที่อยู่ในประเทศเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม Stablecoin ยังมีข้อจำกัดด้านมูลค่าที่ถูกตรึงไว้กับสกุลเงินหลักอย่างดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งต่างจากบิตคอยน์ที่สามารถเติบโตและปรับมูลค่าได้เอง แม้จะมีความผันผวนอยู่บ้าง แต่แนวโน้มราคาของบิตคอยน์ก็ยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ความผันผวนโดยรวมก็ลดลง

โบลีเวียกลายเป็นบทพิสูจน์ความต้องการใช้งานที่แท้จริง
ความจำเป็นได้กลายเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้คริปโตเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในประเทศที่มีปัญหาเงินเฟ้อรุนแรงอย่างโบลิเวีย ที่ซึ่งสกุลเงินท้องถิ่นอ่อนค่าลงอย่างมาก ทำให้ผู้คนหันมาใช้ Bitcoin และ Stablecoin เพื่อรักษามูลค่าเงินออมและใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน แม้จะมีความผันผวนอยู่บ้างก็ตาม
ในโบลิเวีย การเข้าถึงเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นเรื่องยาก ทำให้ Stablecoin ที่มีมูลค่าผูกกับดอลลาร์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึง Bitcoin ที่ถูกนำมาใช้ชำระค่าสินค้าตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่
เจ้าของร้านกาแฟรายหนึ่งที่ให้สัมภาษณ์กับ Bloomberg ว่า เขาเลือกรับชำระด้วย Bitcoin ในหน่วย Satoshis เพื่อรักษามูลค่าเงินออม และเป็นการแสดงออกถึงการต่อต้านระบบราชการ ลูกค้าส่วนใหญ่ยังคงจ่ายด้วยสกุลเงินท้องถิ่น แต่จำนวนผู้ใช้ Bitcoin เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ยังมีร้านค้าและธุรกิจอื่นๆ ในละแวกใกล้เคียงที่เริ่มรับชำระด้วย Bitcoin เช่นกัน

สัญญาณชัด ! นักลงทุนรายใหญ่ทุ่ม 110,000 ดอลลาร์ซื้อ Bitcoin Hyper
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา นักลงทุนรายใหญ่ใช้เงินทุน 25.73 ETH หรือราว 110,000 ดอลลาร์ เข้าซื้อโทเคน Bitcoin Hyper (HYPER) ในช่วงระดมทุน ก่อนที่เหรียญจะเข้าสู่ตลาดซื้อขายทั้งแบบกระจายศูนย์และรวมศูนย์ การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนกลยุทธ์การลงทุนที่มองการณ์ไกล และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการปรับตัวขึ้นครั้งใหญ่
การเข้าซื้อในช่วงระดมทุนมักให้ข้อได้เปรียบที่เหนือกว่าผู้เล่นรายอื่น โดยเฉพาะเมื่อเหรียญเหล่านั้น มีการใช้งานจริงและพื้นฐานแข็งแกร่ง ต่างจากเหรียญมีมที่มักจะได้รับความนิยมเพียงชั่วคราว

สัญญาณเชิงบวกนี้ได้รับการตอกย้ำจาก Aiden Crypto ยูทูบเบอร์ชื่อดังซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 337,000 คน ที่ได้กล่าวถึงแนวทางการขยายเครือข่ายอันล้ำสมัยของ Bitcoin Hyper และคาดการณ์ว่าโทเคน HYPER มีโอกาสเติบโตไปอีกระดับ
นอกจากนี้ ในปัจจุบันโทเคน HYPER ยังมีการแสดงในฟีเจอร์ “Upcoming Tokens” ของ Best Wallet ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินคริปโตที่ผ่านการรับรองโดย WalletConnect คุณสามารถดาวน์โหลดแอปได้จาก Google Play และ App Store
สำหรับข้อมูลอัปเดตและเข้าร่วมพูดคุยกับชุมชนผ่านแพลตฟอร์ม Telegram และ X
หากสนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Bitcoin Hyper อย่างเป็นทางการ
| เช็คลิสต์ | รายละเอียด | สถานะ |
|---|---|---|
| 1. เว็บไซต์ & Whitepaper | โปรเจกต์มีเว็บไซต์ที่ดูน่าเชื่อถือ และมีเอกสาร Whitepaper ที่ระบุข้อมูลชัดเจนไม่กำกวม | ✔️ |
| 2. ความโปร่งใสของทีมงาน | ทีมพัฒนามีการเปิดเผยตัวตนชัดเจนไม่ได้ปกปิดข้อมูลแต่อย่างใด | ❌ |
| 3. Tokenomics | เหรียญมีการแจกแจงการปันส่วนที่สมเหตุผล และไม่มีฝ่ายใดถือครองจนมากเกินไป | ✔️ |
| 4.Smart Contract | Smart contract มีความโปร่งใสและถูกตรวจสอบเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะไม่มีการใส่โค้ดแอบแฝงเพื่อโจมตีนักลงทุน | ✔️ |
| 5. มีกำหนดการชัดเจน | โปรเจกต์มีการกำหนดวันสิ้นสุดการระดมทุนพรีเซล รวมถึงวันลิสต์เหรียญอย่างชัดเจน | ❌ |
| 6. ผู้ใช้สามารถถอนเงินได้ | กรณีเกิดปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้น นักลงทุนยังคงสามารถทำการถอนเงินคืนได้ | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
| 7. คอมมูนิตี้ | โปรเจกต์มีชุมชนคอยให้การสนับสนุนจริง ไม่ได้ถูกรันด้วยบอทเพียงอย่างเดียว | ✔️ |
| 8. สภาพคล่อง | โปรเจกต์มีการล็อกสภาพคล่องเพื่อระงับไม่ให้เกิดการ Rug pull ขึ้น | ❌ |
| 9. ไม่มีสัญญาณอันตราย | โปรเจกต์ไม่มีสัญญาณอันตราย เช่น การระดมทุนจะสิ้นสุดเมื่อราคาถึงระดับ XXX เป็นต้น | ⚠️ (ไม่ชัดเจน) |
| อ่านรายละเอียดเช็คลิสต์เพิ่มเติมได้ที่นี่ | ||
บทความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับโปรเจกต์คริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเท่านั้น มิได้มีเจตนาในการแนะนำหรือเชิญชวนให้ลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ โปรดศึกษาข้อมูลให้รอบคอบและลงทุนตามระดับความเสี่ยงที่ท่านยอมรับได้ ทาง Siam Blockchain รวมถึงผู้บริหารและพนักงานของบริษัท ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่รับผิดชอบในทุกกรณีหากเกิดความเสียหายจากการลงทุนของท่าน
บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์

