สำหรับใครที่เพิ่งก้าวเข้าสู่โลกคริปโตฯ ในช่วงตลาดกระทิง อาจจะรู้สึกว่าการทำเงินเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว แต่รู้หรือไม่ว่า ช่วงเวลาแบบนี้แหละที่อันตรายที่สุด และอัตรายกว่าตอนคุณเข้ามาช่วงตลาดหมีเสียอีก
ซึ่งในวันนี้ทาง SiamBlockchain จะมาสรุป 5 กฎเหล็กที่นักเทรดมือใหม่ควรระวัง เพื่อไม่ให้กำไรที่ได้มา หรือเงินทุนอันมีค่าของคุณต้องหายวับไปในพริบตา
กฏข้อที่ 1: อย่าใช้เงินที่เสียไม่ได้
ข้อนี้ดูเหมือนง่าย แต่หลายคนก็เคยทำพลาดมาแล้ว เมื่อเห็นพอร์ตโตวันโตคืน สมองจะเริ่มหลอกเราว่าเราเก่งขึ้น จนกล้าเอาเงินเก็บ เงินค่าบ้าน หรือเงินที่จำเป็นต้องใช้มาลงเพิ่ม จำไว้เสมอว่าตลาดกระทิงไม่ได้อยู่ตลอดไป และเมื่อมันร่วงลงมา มันจะร่วงลงแรงมาก การใช้เงินเกินตัวในช่วงนี้ ก็ไม่ต่างกับการทำให้ชีวิตคุณตกอยู่ในความเสี่ยง คุณควรเทรดด้วยเงินที่ต่อให้เสียหมดก็ยังคงใช้ชีวิตเป็นปกติได้
กฎข้อที่ 2: กำไรที่ยังไม่ขาย ไม่นับว่าเป็นกำไร
นี่คือความผิดพลาดที่เจ็บปวดที่สุดที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงตลาดกระทิง เมื่อเห็นตัวเลขกำไรพุ่งไปถึง +500% หรือ +1,000% เราจะรู้สึกเหมือนรวยแล้ว แต่ในความเป็นจริง มันเป็นเพียงตัวเลขบนหน้าจอเท่านั้น หากคุณไม่ขายทำกำไร ตัวเลขเหล่านั้นอาจกลายเป็นศูนย์ได้สักวันหนึ่ง การมีแผนเพื่อแบ่งขายทำกำไรบางส่วน คือหัวใจสำคัญของการลดความเสี่ยงและอยู่รอด อย่าปล่อยให้ความโลภครอบงำ เพราะตลาดไม่เคยปราณีใคร
กฎข้อที่ 3: ระวังเหรียญมีมและ Altcoin หน้าใหม่ให้ดี
ช่วงตลาดกระทิงเป็นช่วงที่เหรียญใหม่ๆ ผุดขึ้นมาเหมือนดอกเห็ด เหรียญมีมต่างๆ มักจะขึ้นเป็น 100% ภายในหนึ่งวัน แต่ส่วนใหญ่แล้วเหรียญเหล่านี้จะไม่มีพื้นฐานอะไรเลย เป็นเพียงแค่การเก็งกำไร หากจะเข้าไปเล่นจริงๆ ควรใช้เงินเพียงส่วนเล็กๆ ที่พร้อมจะเสียได้ทั้งหมด ส่วนเงินลงทุนหลักควรเก็บไว้ใน Bitcoin จะเป็นทางที่ปลอดภัยที่สุด
กฏข้อที่ 4: มือใหม่อย่าเล่นเลเวอเรจ (Leverage)
สำหรับนักลงทุนมือใหม่ในตลาดคริปโตฯ ที่อาจจะยังไม่คุ้นเคยกับคำว่า “เลเวอเรจ” ขออธิบายง่ายๆ ว่ามันคือการ “ยืมเงิน” จากแพลตฟอร์มเทรดเพื่อเพิ่มอำนาจในการลงทุน ทำให้คุณสามารถเทรดด้วยจำนวนเงินที่มากกว่าเงินทุนจริงที่มีอยู่หลายเท่าตัว
ยกตัวอย่างเช่น หากคุณมีเงิน 100 บาท แต่เลือกใช้เลเวอเรจ 10 เท่า คุณจะสามารถเทรดด้วยวงเงิน 1,000 บาทได้เลย ฟังดูน่าสนใจใช่ไหมครับ เพราะถ้าหากราคาเหรียญขึ้น คุณก็จะได้กำไรในอัตราที่สูงขึ้นถึง 10 เท่าตัว แต่ในทางกลับกัน หากราคาเหรียญลดลงเพียงเล็กน้อย คุณก็จะขาดทุนหนักขึ้นในอัตราสูงถึง 10 เท่าเช่นเดียวกัน หรือเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ในพริบตา
ตามปกติแล้ว ตลาดคริปโตฯ มีความผันผวนสูงมากอยู่แล้ว การใช้เลเวอเรจจึงเป็นการเพิ่มความเสี่ยงเข้าไปอีกหลายเท่าตัว และเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่ทำให้นักลงทุนมือใหม่หมดตัวอย่างรวดเร็ว
ดังนั้นคำแนะนำคือ ให้เริ่มต้นจากการลงทุนด้วยเงินทุนจริง (ตลาด Spot) ที่มีอยู่ก่อน ศึกษาตลาดและเข้าใจความเสี่ยงอย่างถ่องแท้ จากนั้นจึงค่อยพิจารณาการใช้เลเวอเรจในสัดส่วนที่เหมาะสมเมื่อคุณมีประสบการณ์และความชำนาญมากขึ้นแล้วเท่านั้น
กฎข้อที่ 5: มีแผนการขายก่อนเข้าซื้อเสมอ
นี่คือกฎที่สำคัญที่สุด ก่อนที่จะตัดสินใจเข้าซื้อเหรียญใดๆ คุณต้องมีแผนการขายที่ชัดเจน ทั้งเมื่อทำกำไรได้ตามเป้าหมาย และเมื่อราคาลงมาถึงจุดที่คุณพร้อมจะยอมขาดทุน หลายคนไม่มีแผน เมื่อราคากำไรก็โลภไม่ยอมขาย เมื่อราคาขาดทุนก็หวังว่ามันจะกลับขึ้นมา สุดท้ายก็เสียทั้งกำไรและเงินต้นไปจนหมด
ตลาดกระทิงทำให้เราประมาท แต่จงจำไว้ว่ามันจะจบลงเสมอ คนที่อยู่รอดในระยะยาวคือ คนที่มีแผนและยึดมั่นในแผนนั้น ท้ายที่สุดแล้ว ตลาดกระทิงทำให้ทุกคนดูเหมือนกลายเป็นนักลงทุนที่เก่งขึ้น แต่เมื่อตลาดหมีมาถึง คนที่ขาดหลักการก็จะเหลือไว้เพียงความเสียใจ
อย่างไรก็ตาม ในทุกวงการมีคนประสบความสำเร็จน้อยกว่าคนที่ล้มเหลวเสมอ อย่าชะล่าใจไป เพราะในวงการการลงทุนคริปโตก็เช่นเดียวกัน ดังนั้น เพื่อไม่ให้พอร์ตของเราขาดทุนหนัก จนคุณต้องออกจากตลาดไป แล้วพลาดโอกาสการลงทุนในอนาคต อย่าลืมกฎเหล็ก 5 ข้อนี้เด็ดขาด

