<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

XLM (Stellar Lumen)  คืออะไร ? อะไรที่เราควรรู้เกี่ยวกับ XLM

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ทุกวันนี้ การโอนเงินข้ามประเทศยังคงเป็นเรื่องที่หลายคนปวดหัว เพราะทั้งช้า แพง และซับซ้อนกว่าที่ควรจะเป็น บางครั้งต้องรอหลายวัน กว่าจะถึงปลายทางก็ผ่านคนกลางนับไม่ถ้วน แต่ปัญหานี้เองที่ทำให้ Stellar ถือกำเนิดขึ้นมาในฐานะโซลูชันบล็อกเชนที่ตั้งใจเปลี่ยนวิธีการชำระเงินระหว่างประเทศให้รวดเร็วขึ้น ค่าธรรมเนียมถูกลง และเข้าถึงได้ง่ายกว่าเดิม โดยมีเหรียญประจำเครือข่ายอย่าง Lumens (XLM) ทำหน้าที่สำคัญ ทั้งใช้จ่ายค่าธรรมเนียมธุรกรรม และช่วยเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินที่ไม่สามารถซื้อขายกันโดยตรงได้

ในบทความนี้ สยามบล็อกเชน จะพาคุณไปทำความรู้จักกับ XLM (Stellar Lumen) ให้ชัด ๆ ว่าคืออะไร ทำงานอย่างไร และทำไมถึงกลายมาเป็นหนึ่งในโครงการที่หลายคนจับตามองในโลกคริปโต

Stellar คืออะไร?

Stellar เป็นเครือข่ายบล็อกเชนแบบโอเพ่นซอร์สที่ออกแบบมา เพื่อรองรับการชำระเงินและการโอนสินทรัพย์ข้ามพรมแดนอย่างรวดเร็ว และมีต้นทุนต่ำ เปิดตัวในปี 2014 โดย Jed McCaleb ผู้ร่วมก่อตั้ง Ripple และ Joyce Kim โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างระบบการเงินที่เข้าถึงได้ง่าย และทั่วถึงมากขึ้น

เครือข่ายนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Stellar Development Foundation (SDF) องค์กรไม่แสวงหากำไรที่ช่วยดูแลโค้ด พัฒนา ecosystem และสนับสนุนกรณีการใช้งานต่าง ๆ อย่างเช่น การโอนเงินข้ามประเทศ และการทำ tokenization แปลงสินทรัพย์ไปเป็นโทเค็น

Stellar ทำงานยังไง ?

เครือข่าย Stellar ทำงานโดยมี Stellar Core เป็นแกนหลัก ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ทำงานอยู่บนโหนดต่าง ๆ เพื่อตรวจสอบและยืนยันธุรกรรมในบัญชีแยกประเภททุกๆ 5-7 วินาที ผู้ที่รันโหนดเหล่านี้ สามารถมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการเครือข่ายได้ เช่น การโหวตเพื่ออัปเกรดโปรโตคอลหรือกำหนดค่าธรรมเนียมขั้นต่ำ

กลไกหลักที่ใช้ในการยืนยันธุรกรรมคือ Stellar Consensus Protocol (SCP) ซึ่งแตกต่างจากระบบ Proof of Work (PoW) หรือ Proof of Stake (PoS) ทั่วไป โดย SCP ใช้หลักการที่เรียกว่า Federated Byzantine Agreement (FBA) ซึ่งแต่ละโหนดจะเลือกกลุ่มโหนดที่น่าเชื่อถือของตนเอง (quorum set) และเมื่อกลุ่มโหนดเหล่านี้ซ้อนทับกันมากพอ ก็จะสามารถสรุปผลธุรกรรมได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ธุรกรรมบนเครือข่าย Stellar เสร็จสมบูรณ์ได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที โดยไม่จำเป็นต้องใช้การขุดหรือการวางเงินค้ำประกันจำนวนมาก

คุณสมบัติเด่นของ Stellar

จุดเด่นของเครือข่าย Stellar ที่น่าสนใจคือ การใช้งานสัญญา Smart contracts หรือ Soroban ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนาจากภาษา Rust และทำงานบน WebAssembly (Wasm) ทำให้รวดเร็วและปลอดภัย โดยใช้โมเดลค่าเช่า แทนการล็อกเหรียญ XLM แบบเก่า 

นอกจากนี้ ยังมีระบบ Anchors ซึ่งเป็นองค์กรที่น่าเชื่อถืออย่างธนาคาร หรือผู้ให้บริการชำระเงิน ทำหน้าที่แปลงเงินสกุลทั่วไป (Fiat) ให้เป็นโทเค็นบนเครือข่ายที่มีมูลค่าเท่ากัน ทำให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนเงินระหว่างสกุลได้ง่าย และโอนย้ายได้สะดวกผ่าน Anchor ต่างๆ ที่รองรับระบบนี้

กรณีการใช้งานจริง (Use Cases) ของ Stellar

จุดเด่นที่ทำให้ Stellar ถูกนำไปใช้งานจริงอย่างหลากหลายคือ ความสามารถในการ โอนเงินข้ามพรมแดน ได้อย่างรวดเร็วและมีค่าธรรมเนียมต่ำ ทำให้เหมาะสำหรับการชำระเงินระหว่างประเทศ 

นอกจากนี้ ยังสามารถโทเค็นสินทรัพย์ ต่าง ๆ เช่น หุ้น พันธบัตร หรือสินค้าโภคภัณฑ์ เพื่อซื้อขายบนเครือข่ายได้ อีกทั้งยังเป็นแพลตฟอร์มที่รองรับการสร้าง Stablecoin เช่น USDC ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Stellar ยังถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการ ชำระเงินย่อย (Micropayments) ทำให้เหมาะกับการใช้งานเล็กๆ น้อยๆ เช่น การให้ทิป หรือการบริจาค และที่สำคัญที่สุดคือการช่วยให้ผู้ที่ ไม่มีบัญชีธนาคาร สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลและระบบ Anchor ได้ ทำให้การเงินเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน

โทเค็น XLM

XLM คือ โทเค็นหลักของเครือข่าย Stellar ที่มีบทบาทสำคัญหลายอย่าง โดยทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ระหว่างสกุลเงินต่างๆ บนเครือข่าย นอกจากนี้ยังใช้สำหรับจ่ายค่าธรรมเนียมธุรกรรม ที่มีต้นทุนต่ำ และยังต้องถือยอดขั้นต่ำในบัญชีเพื่อรักษาสถานะให้ใช้งานได้ รวมถึงใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บข้อมูลของสัญญา smart contract อีกด้วย

การเปิดตัวและการกระจายโทเค็น XLM 

ตอนเปิดตัวในปี 2014 เครือข่าย Stellar ได้สร้างโทเค็น XLM ขึ้นมาทั้งหมด 100,000 ล้านโทเค็น โดยในตอนแรกมีนโยบายเงินเฟ้อที่จะเพิ่มอุปทานปีละ 1% แต่ต่อมาในปี 2019 นโยบายนี้ถูกยกเลิกไป และมีการเผาเหรียญ (burn) ครั้งใหญ่ถึง 55,000 ล้านโทเค็น ทำให้ปัจจุบันเหลืออุปทานหมุนเวียนอยู่ประมาณ 50,000 ล้านโทเค็น

เมื่อ เดือนสิงหาคม 2025 มีเหรียญ XLM หมุนเวียนในตลาดแล้วประมาณ  31,300 ล้านโทเค็น ส่วนที่เหลืออีกราว 18,400 ล้านโทเค็น ยังคงอยู่ในความดูแลของ Stellar Development Foundation (SDF) เพื่อใช้เป็นทุนสนับสนุนการพัฒนาและส่งเสริมเครือข่ายต่อไป

Stellar ถือเป็นเครือข่ายบล็อกเชนที่ออกแบบมาเพื่อปฏิวัติการโอนเงินข้ามประเทศให้รวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย โดยใช้โทเค็น XLM, โปรโตคอล SCP และระบบ Anchor เป็นเครื่องมือเชื่อมโลกบล็อกเชนเข้ากับระบบการเงินแบบดั้งเดิม 

นอกจากนี้ การเพิ่มแพลตฟอร์ม Soroban สำหรับสัญญา Smart contract ยังทำให้ Stellar ไม่ได้เป็นแค่เครือข่ายสำหรับชำระเงินอีกต่อไป แต่ยังกลายเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันและบริการทางการเงินแบบใหม่ๆ ในอนาคตอีกด้วย