World โปรเจกต์ผู้พัฒนาเทคโนโลยีสแกนม่านตาผ่านอุปกรณ์ Orb ล่าสุดได้ออกแถลงผ่านเพจเฟซบุ๊ก “World Thailand” เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงและมาตรการด้านความปลอดภัยของเทคโนโลยีดังกล่าว หลังเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการถ่ายภาพม่านตาและการจัดเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งาน

ที่มาภาพ : facebook
การชี้แจงครั้งนี้เกิดขึ้นหลังมีข้อสงสัยและคำถามมากมายจากชาวเน็ต เช่น การสแกนม่านตานั้นถือเป็นการเก็บข้อมูลชีวมิติหรือไม่? ข้อมูลจะถูกเก็บอย่างปลอดภัยจริงหรือเปล่า? และถ้าหากเกิดการรั่วไหล เจ้าของข้อมูลจะรู้และปกป้องสิทธิ์ทางกฎหมายได้แค่ไหน?
อีกทั้งยังมีประเด็นเรื่อง หลังจากสแกนม่านตาแล้วจะได้เหรียญ Worldcoin (WLD) เป็นสิ่งตอบแทน โดยเหรียญ Worldcoin (WLD) สามารถนำไปขายบนกระดานเทรดคริปโต เพื่อแลกเป็นเงินบาทนั้น อาจกลายเป็นแรงจูงใจที่ดึงดูดคนบางกลุ่มเกินความจำเป็นหรือไม่
ซึ่ง World ออกมาเคลียร์ทุกประเด็น พร้อมยืนยันว่า โปรเจกต์นี้ก่อตั้งขึ้นโดย Sam Altman ผู้สร้าง ChatGPT และ Alex Blania มีเป้าหมายเพื่อแก้ปัญหาใหญ่ในยุคดิจิทัล คือการแยกแยะมนุษย์จริงกับบอทหรือ AI และป้องกันตนเองจากการฉ้อโกงทางดิจิทัล
World ได้สร้างระบบยืนยันความเป็นมนุษย์ที่ ไม่รวบรวมหรือจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล อาทิ ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เลขบัตรประชาชน เป็นต้น รวมถึง ไม่มีการซื้อ เก็บ หรือขายข้อมูลชีวมิติ ระหว่างการยืนยันความเป็นมนุษย์
ซึ่งกระบวนการทำงานของอุปกรณ์ Orb จะเปลี่ยนภาพม่านตาเป็นรหัสตัวเลขที่เรียกว่า Iris Code โดยรหัสตัวเลขไม่สามารถย้อนกลับไปเป็นภาพต้นฉบับได้ ข้อมูลดังกล่าวจะถูกบันทึกเฉพาะในอุปกรณ์ของผู้ใช้งานเท่านั้น และภาพทั้งหมดจะถูกลบทิ้งทันที
เพื่อความโปร่งใส World ยังได้มีการสร้างเครือข่ายแบบเปิด (Open source) และกระจายศูนย์ (Decentralized) โดยส่วนประกอบหลักของทั้งฮาร์ดแวร์ เช่น อุปกรณ์ Orb และซอฟท์แวร์ ได้รับการเปิดเผยซอร์สโค้ดต่อสาธารณะ และสามารถเข้าตรวจสอบได้ และผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยโดยบุคคลที่สาม ซึ่งเป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญชั้นนำระดับโลก เพื่อรักษามาตรฐานความปลอดภัยและความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ที่นี่
World ระบุเพิ่มเติมว่า ไม่มีการแจกเงินสด ผู้ที่ผ่านการยืนยันความเป็นมนุษย์จะได้รับ Worldcoin ซึ่งสามารถแปลงเป็นเงินบาทได้เฉพาะผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ถูกกฎหมาย และเปิดเผยรายชื่อพันธมิตรในไทยที่นำ World ID ไปใช้งาน แล้วมากมายอาทิเช่น
- Pantip.com – เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือในการถาม-ตอบบนเว็บ
- Whoscall (Gogolook) – ยืนยันเบอร์โทรศัพท์จริง ลดปัญหามิจฉาชีพ
- Eventpop – ป้องกันบอทในการจองบัตรคอนเสิร์ต งานสัมมนา และคอร์สเรียน
- Ragnarok (Zentry) – ลดการใช้บอทโกงในการเล่นเกม
ท้ายที่สุด World ย้ำชัดว่า ไม่มีการขอข้อมูลส่วนบุคคล อย่างหมายเลขบัตรประชาชน เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลบัตรเครดิต หรือ OTP และไม่มีการจ้างบุคคลที่สาม เพื่อจัดเก็บข้อมูลเหล่านี้ ประชาชนจึงควรระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจแอบอ้างแทน
ใครที่อยากติดตามข้อมูลอัปเดตอย่างเป็นทางการ สามารถเข้าไปที่เพจ World Thailand ได้โดยตรง

