Joseph Lubin หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum และผู้บริหารระดับสูงของ SharpLink ได้ออกมาจุดประกายความหวังครั้งใหญ่ให้กับนักลงทุนด้วยคำทำนายที่น่าตกใจเกี่ยวกับราคา ETH บนแพลตฟอร์ม X
เมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา Lubin ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ยาวนานในวงการการเงินในฐานะอดีตรองประธานของ Goldman Sachs ได้ออกมาประกาศอย่างมั่นใจว่า “ETH น่าจะเพิ่มขึ้นได้ถึง 100 เท่าจากราคาปัจจุบัน หรืออาจจะมากกว่านั้น”
คำทำนายที่ดูเกินจริงนี้ไม่ได้มาจากความรู้สึกเพียงอย่างเดียว แต่มีเหตุผลที่หนักแน่นรองรับ Lubin ชี้ให้เห็นถึงการเข้ามาของ “เงินทุนก้อนโตจาก Wall Street” ที่กำลังจะเปลี่ยนทิศทางการลงทุนครั้งใหญ่ โดยบรรดาสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่กำลังหันมาใช้ Ethereum เป็นแพลตฟอร์มหลักในการดำเนินธุรกิจมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขาจะเข้ามาทำหน้าที่เป็นผู้ตรวจสอบ (Validators) เพื่อรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย สร้าง Smart Contracts และพัฒนาแอปพลิเคชันทางการเงินบนเครือข่าย L2 และ L3
การเคลื่อนไหวเหล่านี้ ไม่ใช่แค่เรื่องในอนาคต แต่เราเริ่มได้เห็นภาพที่ชัดเจนแล้วจากธนาคารชั้นนำอย่าง JPMorgan ที่ใช้เทคโนโลยีจาก Ethereum มาเกือบสิบปี รวมถึง Goldman Sachs ที่กำลังพัฒนาโครงการ DeFi และ Stablecoin บนเครือข่ายเดียวกัน
การยอมรับจากสถาบันการเงินระดับโลกนั้น ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในยุคสมัยของคริปโต ซึ่งเป็นสิ่งที่ตอกย้ำความเชื่อของ Lubin ได้เป็นอย่างดี บริษัทผู้จัดการสินทรัพย์ขนาดใหญ่อย่าง BlackRock และ VanEck ได้ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อเข้าซื้อ ETH ให้กับลูกค้า สะท้อนให้เห็นว่า ETH กำลังได้รับการยอมรับในฐานะ “สินทรัพย์ดิจิทัลตัวหลัก” สำหรับการลงทุนระดับองค์กร ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่แตกต่างจากในอดีตอย่างสิ้นเชิง
Lubin ได้สรุปหัวใจสำคัญของ Ethereum ไว้สั้นๆ แต่ทรงพลังว่าคือ “ความไว้วางใจแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Trust)” ซึ่งเป็นสิ่งที่ระบบการเงินแบบดั้งเดิมต้องการอย่างมาก และด้วยศักยภาพในการเติบโตอย่างรวดเร็วของระบบเศรษฐกิจแบบกระจายศูนย์นี้ ทำให้ Lubin เชื่อมั่นอย่างยิ่งว่า ETH มีโอกาสที่จะเติบโตได้อย่างมหาศาลจนไม่มีใครคาดคิดถึง
ถึงแม้ว่าเดือนกันยายนจะเป็นเดือนที่ท้าทายสำหรับราคา ETH โดยในอดีตมักจะให้ผลตอบแทนติดลบ แต่ Lubin ยังคงมองโลกในแง่บวก และย้ำว่า พื้นฐานที่แข็งแกร่งของ Ethereum นั้นยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ปัจจัยต่างๆ เช่น กระแสเงินไหลเข้าจากสถาบัน การถือครองโดยบริษัทเอกชน ผลตอบแทนจากการ Stake และการอัปเกรดเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง ล้วนเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ ถึงอนาคตที่สดใสในระยะยาว
ที่มา:cryptoslate

