เป็นที่ทราบกันดีว่า บิทคอยน์สกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของโลกมีปริมาณสูงสุดจำกัดอยู่ที่ 21 ล้าน BTC และในปี 2025 นี้ เรากำลังเดินหน้าเข้าสู่ช่วงที่อุปทานหมุนเวียนแตะระดับ 95% ของอุปทานเหรียญทั้งหมด ซึ่งนับเป็นสัญญาณชัดเจนว่า Bitcoin กำลังเข้าสู่ภาวะ “ขาดแคลน” เนื่องจากมีเหรียญถูกผลิตใหม่ได้น้อยลงในขณะที่เหรียญจำนวนมากถูกล็อกและไม่ถูกนำออกมาเคลื่อนไหวในตลาด
Zack Wainwright นักวิจัยจาก Fidelity เปิดเผยว่า ภายในปี 2025 จะมีบิตคอยน์มากถึง 28% หรือราว 6 ล้าน BTC ที่ไม่ถูกนับรวมอยู่ในระบบสภาพคล่อง โดยส่วนใหญ่เป็นเหรียญที่ไม่ได้เคลื่อนไหวนานกว่า 7 ปี รวมถึงเหรียญที่ถูกถือครองโดยบริษัทหรือสถาบันที่ถือครองในปริมาณมากกว่า 1,000 BTC ขึ้นไป
ปัจจุบันบริษัทต่าง ๆ ถือครองบิตคอยน์ราว 4% ของอุปทานหมุนเวียน หรือประมาณ 830,000 BTC โดยกว่า 97% ของจำนวนนี้อยู่ในมือของบริษัทที่ถือครองมากกว่า 1,000 BTC และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เมื่อรวมเข้ากับบิตคอยน์ที่ถูกถือโดยนักลงทุนระยะยาว (long-term holders) ก็จะยิ่งเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นว่า อุปทานที่ไม่หมุนเวียน (illiquid supply) กำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเริ่มสังเกตได้ชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2024
มีการคาดการณ์ว่า ภายในปี 2032 ราว 42% ของบิตคอยน์หมุนเวียนในปัจจุบัน หรือประมาณ 8.3 ล้าน BTC จะถูกเก็บไว้นิ่ง ๆ ไม่ถูกนำออกมาใช้งาน ส่งผลให้ตลาดยิ่งเผชิญภาวะขาดแคลน สวนทางกับความต้องการสะสมที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ หากรัฐบาลต่าง ๆ เปิดรับบิทคอยน์มากขึ้น และมีการออกกฎหมายที่เอื้อต่อการถือครองหรือใช้งาน ก็อาจเร่งให้ภาวะอุปทานไม่หมุนเวียนทวีความรุนแรงและเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าวไม่ได้กล่าวถึง Ethereum ว่าจะเผชิญปรากฏการณ์เดียวกัน แม้ในความเป็นจริง บริษัทต่าง ๆ ได้เข้าซื้อ ETH ไปแล้วกว่า 4% ของอุปทานหมุนเวียนภายในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
ที่มา : Cryptopotato

