เป็นความจริงที่ว่า ผู้คนที่หลั่งไกลเข้าในมาอุตสาหกรรม Cryptocurrency นั้น เข้ามาเพื่อทำกำไร ซึ่งส่วนใหญ่นั้นมาจาการซื้อขายคริปโตนั่นเอง ทำให้เว็บเทรดคริปโตเป็นหนึ่งในกลไกที่สำคัญในอุตสาหกรรมโดยภาพรวมที่คอยขับเคลื่อนให้ Ecosystem ของ Cryptocurrency ขับเคลื่อนไปในทิศทางที่เหมาะสมได้ และในบางครั้ง การที่เว็บเทรดเหล่านั้นจะดำนเนิการอย่างมีประสิทธิภาพก็อาจจะจำเป็นต้องพึ่งตัวช่วย
HyperQuant คืออะไร
HyperQant คือ แพลตฟอร์มในระดับ Ecosystem ที่รวมการเทรดคริปโตโดยอัตโนมัติกับเครื่องมือในการจัดการบริหารสินทรัพย์เข้าด้วยกัน พร้อมการพัฒนา Dapps และ Protocol แบบ Fast Order Delivery ที่ล้ำหน้า อีกทั้งมันถุกสนับสนุนด้วยเทคโนโลยี Protocol Smart Contract ของพวกเขา และ Algorithm การเทรดแบบ AI
ในฐานะที่เป็นสมาชิกของ Enterprise Ethereum Alliance หรือ EEA ซึ่งเป็น Open Source ของ Blockchain ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โปรเจกต์ได้ประสานงานร่วมมือกับผู้นำในอุตสาหกรรม เพื่อที่จะสร้างแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับเทคโนโลยีระดับองค์กรโดยใช้เทคโนโลยีของ Ethereum ซึ่งเป็นแบบ Open Source
ประโยชน์ของ HyperQuant
สำหรับผู้ที่ไม่ทราบ Hyper Fast Order Delivery Protocol จะสามารถทำให้เกิดการโอนถ่ายข้อมูลในความเร็วสูงระหว่างแพลตฟอร์มการเทรดได้ พวกเขาเคลมว่ามีความเร็วกว่า Solution แบบอื่น ๆ เป็นร้อย ๆ เท่า ซึ่งสร้างความได้เปรียบสำหรับ Dapps และบริการต่าง ๆ ที่ใช้งานอยู่
นอกจากนี้พวกเขายังใช้โมเดล Markle’s Tree และ Proof-of-existance ในการเก็บข้อมูลการทำธุรกรรมอีกด้วย ซึ่งจะรับรองว่าระบบมีความโปร่งใส, ความปลอดภัย และประสิทธิภาพ
[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]
โมเดล Markle’s Tree คือระบบที่ Zcoin ซึ่งเป็นคริปโตที่มีมูลค่าโดยรวมมากที่สุดติดอันดับ 100 อีกด้วย และยังเป็นคริปโตที่มีผู้สร้างเป็นคนไทน ใช้งานอยู่อีกด้วย
ระบบดังกล่าวยังเอื้อนักลงทุนและนักเทรด โดยทีมของ HyperQuant ได้พัฒนาบอทในการเทรดที่ใช้ AI ซึ่งจะมีการแนะนำการตั้งค่าบอทหรือการปรับสมดุลพอร์ทคริปโตสำหรับการทำกำไรและการลดความเสี่ยงอีกด้วย การจัดการความเสี่ยงและความปลอดภัยนั้นเป็นกุญแจสำคัญในตลาดคริปโตที่มีความผันผวนสูง
รวมทั้งนักพัฒนาและผู้สร้างโครงสร้างพื้นฐานยังสามารถได้รับประโยชน์จาก HyperQuant อีกด้วย เนื่องจากมี API protocol แบบ Open-source สำหรับเว็บเทรดคริปโต พร้อมทั้งรวบรวมตัวชี้วัดเป็นร้อย ๆ ตัว และมี Algorithm ที่พร้อมใช้งาน ซึ่งสามารถสร้างเองได้เช่นกัน มีการ Backtest แบบอัตโนมัติจากข้อมูลของตลาดในอดีต
การทำงาน
โทเคนของแพลตฟอร์มจะมีชื่อว่า HQT ซึ่งผู้ที่ถือครองโทเคนสามารถใช้บอทเทรดคริปโต และโปรแกรม Market Making และ Hedging ได้
วิธีที่จะได้โทเคนมานั้นมีหลัก ๆ 3 ทางคือ การพัฒนา dApps บนตลาดของพวกเขา, การสร้างขอมูลที่มีมูลค่าให้กับตลาด หรือซื้อจากโทเคนจากเว็บเทรดตามปกติ
[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]
และแน่นอนว่าผู้ใช้งานสามารถใช้โทเคนในการสร้าง Smart Contract ที่จะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับ Portfolio การลงทุนและการตั้งค่าบอทในการเทรดของเราได้ หรือสามารถสร้าง dApps ในการเทรด หรือ Hedge Fund ของเราบนแพลตฟอร์มได้
ทีมงาน
นาย Pravel Pravcheko CEO ของโปรเจกต์เป็นผู้ที่มีประสบการณ์และประสบความสำเร็จกว่า 14 ปี รวมทั้งเป็น Quant Trader มืออาชีพ ที่มีกองทุนมูลค่าหลายล้านดอลลาร์
นาย Paul Rogov กรรมการผู้จัดการ เป็นผู้สร้างโปรเจกต์ด้าน IT สัญชาติรัสเซียนาม Mail.ru Group & My.com และเป็น CMO ของบริษัทด้านการลงทุนระดับสากล รวมทั้งประสบการณ์อย่างโชกโชนในอุตสาหกรรมด้านการเงิน, E-commerce, Heavy Machinery และ IT
ในส่วนของสมาชิกคนอื่น ๆ นั้นประกอบไปด้วยสมาชิกที่มากความสามารถที่มีประสบการณ์ในด้าน IT, Big Dtat และ Machine Learning พร้อมทั้งการเงินและการลงทุน และด้านอื่น ๆ อย่างครบครัน
ICO
สำหรับการขายโทเคนหรือ ICO ของพวกเขาจะเปิดขายโทเคน 35 เปอร์เซ็นต์จากทั้งหมดที่มี โดยจะเปิดรอบ Public pre-sale ในเดือนกรกฎาคม ที่จะมี Bonus 10 เปอร์เซ็นต์ โดยจะมีราคาที่ 0.00028 ETH ต่อโทเคน หรือ 3,500 HQT ต่อ 1 ETH และพวกเขามีเป้าหมายที่จะระดมทุน 20,000 ETH
[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]
สรุป
โดยความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียน คิดว่าโปรเจกต์นี้มีความเฉพาะตัวและศักยภาพอยู่พอสมควร เนื่องจากมีทีมละ Partners ที่แข็งแกร่ง เช่น เว็บเทรดคริปโต KuCoin รวมทั้งมีจุดยืนที่ชัดเจนไม่ซ้ำใคร ซึ่งโทเคนนั้นสามารถนำมาใช้งานได้จริงสำหรับการเทรด ซึ่งเป็นกลไกที่สำคัญในอุตสาหกรรมคริปโต
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปอ่านรายละเอียดได้ที่เว็บไซต์หลักของ HyperQuant และสามารถติดตามข่าวสารได้ที่ Telegram ของบริษัท
หมายเหตุ: การลงทุนในตัวเหรียญ Cryptocurrency มีความเสี่ยงสูงมาก ผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนทำการตัดสินใจลงทุน ทางสยามบล็อกเชนจะไม่รับผิดชอบในความสูญเสียในทุกกรณี บทความนี้เป็นบทความสปอนเซอร์
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น