ในที่สุด “ความยุติธรรม” ก็กำลังจะมาถึงมือของเหยื่อคริปโตครั้งใหญ่ระดับโลก เมื่อศาลอังกฤษเตรียมคืนเงินให้ผู้เสียหายจากคดีหลอกลงทุน Bitcoin มูลค่ากว่า 6,800 ล้านดอลลาร์ (หรือราว 221,340 ล้านบาท) หลังตำรวจนครบาลลอนดอนสามารถยึดเหรียญ BTC จำนวนมหาศาลที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงครั้งนี้ไว้ได้สำเร็จ
คดีนี้เริ่มต้นจาก โปรเจกต์ลงทุนหลอกลวงในจีน เมื่อปี 2017 ภายใต้ชื่อ Tianjin Lantian ซึ่งสัญญาว่า จะให้ผลตอบแทนสูงผิดปกติ โดยหลอกล่อให้นักลงทุนกว่า 128,000 คน ทุ่มเงินลงทุนทั้งหมดเข้าไป ซึ่งโปรเจกต์มีโครงสร้างที่คล้าย “แชร์ลูกโซ่” คือใช้เงินของนักลงทุนรายใหม่มาจ่ายกำไรปลอมให้รายเก่า เพื่อสร้างภาพลวงตาว่า ธุรกิจกำลังรุ่งเรือง
เมื่อโปรเจกต์ล่มสลายลง ได้สร้างความเสียหายมหาศาลกว่า 40,000 ล้านหยวน (ราว 5.5 พันล้านดอลลาร์) ทางการจีนจึงเริ่มสืบสวนอย่างเข้มข้น และพบร่องรอยของเงินที่ถูกฟอกผ่านเครือข่ายบัญชีคริปโตในต่างประเทศ ก่อนที่เรื่องราวทั้งหมดจะถูกโยงไปถึงอังกฤษ
ในขณะที่ ตำรวจนครบาลลอนดอนก็ได้ตรวจพบ Bitcoin จำนวนกว่า 61,000 BTC ตั้งแต่ปี 2018 ระหว่างการสอบสวนคดีฟอกเงินที่เชื่อมโยงกับหญิงชาวจีน 2 ราย โดยหนึ่งในนั้นคือ Yadi Zhang (หรือ Zhimin Qian) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการฟอกเงินที่มาจากคดีฉ้อโกงดังกล่าว
หลังจากเจ้าหน้าที่ใช้เวลาหลายปีในการติดตาม Yadi Zhang ก็ยอมรับสารภาพในข้อหาฟอกเงิน เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ขณะที่ศาลเปิดเผยว่า เธอเคยซ่อนรหัสกระเป๋าเงินคริปโต ไว้ในช่องลับของกางเกงวอร์ม ที่สวมอยู่ขณะถูกจับกุม ซึ่งการค้นพบครั้งนั้น ช่วยให้ตำรวจสามารถเข้ายึด Bitcoin เพิ่มได้อีกกว่า 67,300,000 ปอนด์
ปัจจุบันมีผู้ต้องหาชาวจีนแล้ว 14 คน ที่ถูกตัดสินจำคุกในประเทศจีนจากคดีนี้ ขณะที่รัฐบาลอังกฤษเตรียมเดินหน้าตั้ง “โครงการชดเชยเหยื่อ” เพื่อคืนเงินให้กับผู้เสียหายที่สูญเงินจากโปรเจกต์หลอกลวงดังกล่าว
Jackson Ng ทนายความที่เป็นตัวแทนเหยื่ออีกกลุ่มหนึ่ง กล่าวกับศาลว่า
“สิ่งที่สำคัญที่สุดในคดีนี้คือ การทำให้แน่ใจว่าเหยื่อทุกคนจะได้รับเงินคืนอย่างเป็นธรรม และในสัดส่วนที่พวกเขาสมควรได้”
ลิงก์ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ที่มา : cryptopolitan

