ในโลกของคริปโต คำว่า “HODL” (ที่เพี้ยนมาจาก Hold) ได้กลายเป็นมนต์ขลัง, คัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ และกลยุทธ์หลักที่นักลงทุนจำนวนมากยึดถือ แนวคิดนั้นเรียบง่าย: ซื้อเหรียญที่คุณเชื่อมั่น แล้ว “ถือยาว” ไปเลย ไม่ว่าราคาจะผันผวนแค่ไหน สุดท้ายแล้วคุณจะร่ำรวยเหมือนคนที่ซื้อ Bitcoin ตั้งแต่ยุคแรกๆ แต่ท่ามกลางเรื่องราวความสำเร็จเหล่านั้น กลับมี “ด้านมืด” ที่ไม่มีใครอยากพูดถึงซ่อนอยู่ ความจริงก็คือ กลยุทธ์ HODL แบบไม่ลืมหูลืมตา อาจไม่ได้นำคุณไปสู่ความมั่งคั่งเสมอไป และในบางครั้ง มันอาจกลายเป็น “กับดัก” ที่ทำให้คุณพลาดโอกาสครั้งใหญ่ หรือแม้กระทั่งสูญเสียเงินทุนทั้งหมด
ทำไม HODL ถึงกลายเป็น ‘กับดัก’?
- ไม่ใช่ทุกเหรียญคือ Bitcoin นี่คือความจริงที่เจ็บปวดที่สุด เรื่องราวความสำเร็จของ HODL มักจะผูกติดอยู่กับ Bitcoin ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความพิเศษเฉพาะตัว แต่สำหรับ Altcoin นับหมื่นเหรียญในตลาด สถานการณ์แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โปรเจกต์จำนวนมากเกิดขึ้นมาพร้อมกับคำสัญญาที่สวยหรู แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว, ถูกทอดทิ้ง หรือกลายเป็นเพียง “สุสานดิจิทัล” ที่ไร้ค่า การ HODL เหรียญเหล่านี้ก็ไม่ต่างอะไรกับการกอดเศษกระดาษไว้แน่น และรอวันที่มันจะกลายเป็นศูนย์ ลองนึกถึงเหรียญ ICO ที่เคยโด่งดังในปี 2017 หรือเหรียญ DeFi ที่เคยเป็นดาวรุ่งในปีก่อนๆ ตอนนี้เหลือมูลค่าเท่าไหร่?
- ต้นทุนค่าเสียโอกาสมหาศาล ทุกๆ วันที่คุณ HODL เหรียญที่ “ไม่วิ่ง” หรือกำลัง “ดิ่งลง” คุณกำลังสูญเสียโอกาสที่จะนำเงินทุนก้อนนั้นไปลงทุนในโปรเจกต์ใหม่ๆ ที่มีศักยภาพเติบโตสูงกว่า ตลาดคริปโตเคลื่อนไหวเร็วมาก กระแส (Narrative) ใหม่ๆ เกิดขึ้นตลอดเวลา (เช่น AI, RWA, DePIN ในช่วงหลัง) การยึดติดกับเหรียญเก่าที่ไม่สร้างผลตอบแทน อาจหมายถึงการพลาด “รถไฟขบวนใหม่” ที่จะนำคุณไปสู่ผลกำไรมหาศาลได้
- วัฏจักรตลาดที่โหดร้ายและการติดดอยชั่วชีวิต ตลาดคริปโตมีวัฏจักรที่ชัดเจน การ HODL ผ่านช่วงตลาดหมีที่ราคาร่วงลง 80%-90% นั้นต้องใช้สภาพจิตใจที่แข็งแกร่งอย่างยิ่ง และที่สำคัญกว่านั้นคือ “ไม่มีอะไรรับประกัน” ว่าราคาจะกลับไปที่จุดสูงสุดเดิมได้เสมอไป เหรียญจำนวนมากที่เคยทำ All-Time High ในรอบที่แล้ว อาจจะไม่เคยกลับไปแตะจุดนั้นได้อีกเลยตลอดกาล การ HODL เหรียญเหล่านั้นจึงกลายเป็นการ “ติดดอย” อย่างถาวร
- เทคโนโลยีและกระแสที่เปลี่ยนไป โลกบล็อกเชนพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โปรเจกต์ที่เคยดูดีเมื่อ 2 ปีก่อน วันนี้อาจจะดูล้าสมัยไปแล้วเมื่อเทียบกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น การ HODL โดยไม่พิจารณาถึงการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีหรือกระแสความสนใจของตลาด อาจทำให้พอร์ตของคุณเติบโตช้ากว่าที่ควรจะเป็นอย่างมาก
แล้ว HODL อย่างไรให้ ‘รอด’ และ ‘รวย’?
การถือยาวไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องทำอย่างมี “สติ” และ “กลยุทธ์” ไม่ใช่การถือแบบหลับหูหลับตา
- เลือก ‘ม้า’ ให้ถูกตัว ไม่ใช่ทุกเหรียญที่ควรค่าแก่การ HODL จงเลือกเฉพาะโปรเจกต์ที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งจริงๆ, มี Use Case ที่ชัดเจน, ทีมพัฒนาที่โปร่งใส และมีแนวโน้มที่จะอยู่รอดในระยะยาว (เช่น Bitcoin, Ethereum หรือ Layer 1/Layer 2 ที่มีระบบนิเวศแข็งแกร่ง)
- มี ‘จุดออก’ ในใจเสมอ ก่อนจะ HODL เหรียญใด ควรกำหนดเงื่อนไขในการ “เลิก HODL” ไว้ล่วงหน้า เช่น หากปัจจัยพื้นฐานของโปรเจกต์เปลี่ยนไปในทางที่แย่ลง, มีเทคโนโลยีใหม่ที่ดีกว่าเข้ามาแทนที่ หรือราคาหลุดแนวรับสำคัญที่รับไม่ได้ การมีแผนการออกจะช่วยป้องกันไม่ให้คุณติดดอยตลอดกาล
- แบ่งขายทำกำไรบ้าง (Take Profit) การ HODL ไม่ได้หมายความว่าห้ามขายเลย การแบ่งขายทำกำไรออกมาบ้างเมื่อราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างร้อนแรง เป็นการลดความเสี่ยงและสร้างกระแสเงินสดเพื่อนำไปลงทุนต่อยอดในโอกาสใหม่ๆ
- ทบทวนพอร์ตอย่างสม่ำเสมอ อย่าซื้อแล้วลืม ควรกลับมาทบทวนพอร์ตการลงทุนของคุณเป็นประจำ (เช่น ทุกไตรมาส หรือทุกครึ่งปี) เพื่อประเมินว่าเหรียญที่คุณถือยังคงมีศักยภาพอยู่หรือไม่ และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตามสถานการณ์ตลาดที่เปลี่ยนไป

