ตอนนี้เครือข่าย ETH กำลังอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการทดสอบครั้งใหญ่สุดก่อนการอัปเกรดที่ชื่อว่า “Fusaka” ที่มีกำหนดจะเปิดตัวบนเครือข่ายหลัก (Mainnet) ในวันที่ 3 ธันวาคม
การอัปเกรดเป็นสิ่งที่น่าสนใจเพราะจะมาพร้อมกับการปรับเปลี่ยนสำคัญ 2 เรื่องหลักๆ คือ: 1) การเพิ่มเพดานแก๊สต่อบล็อก จาก 45 ล้านเป็น 60 ล้าน ทำให้รองรับธุรกรรมได้มากขึ้น และ 2) การกำหนดเพดานแก๊สต่อธุรกรรมที่ 16.78 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นการป้องกันไม่ให้ธุรกรรมใดธุรกรรมหนึ่งกินพื้นที่แก๊สในบล็อกไปทั้งหมด (ป้องกันการผูกขาด) พูดง่ายๆ คือ การอัปเกรดนี้จะทำให้เครือข่าย รับส่งธุรกรรมได้ทั่วถึงและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น การันตีว่าธุรกรรมจะถูกกระจายอย่างทั่วถึง
นอกจากนี้ “Fusaka” ยังพ่วงฟีเจอร์เด็ดอย่าง PeerDAS (Peer Data Availability Sampling) ที่จะมาช่วยลดภาระการเก็บข้อมูลของ Node ลงไปเยอะมาก ทำให้ไม่ต้องใช้ทรัพยากรฮาร์ดแวร์หนักๆ อีกต่อไป ซึ่งนั่นหมายถึง ต้นทุนในการทำธุรกรรมบน Layer 2 จะถูกลงไปอีก
นักพัฒนาจาก Consensys ย้ำว่าการทดสอบบน Testnet ต่างๆ ทั้ง Holesky และ Sepolia ถือเป็นสิ่งจำเป็นแบบสุดๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้เหล่านักพัฒนา โดยการทดสอบครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นบน Testnet “Hoodi” ในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ และถ้าทุกอย่างผ่านฉลุย เราก็จะได้เห็นการอัปเกราด “Fusaka” ในเดือนธันวาคมตามกำหนด ซึ่งถือเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ครั้งที่สองของปีนี้ต่อจาก “Pectra” เมื่อเดือนพฤษภาคม 2024 และแน่นอนว่า การอัปเกรดครั้งถัดไปในชื่อ “Glamsterdam” ก็เตรียมรอเราอยู่ในปีหน้าแล้ว
ที่มา : Cointelegraph
ลิงก์ข่าวที่เกี่ยวข้อง

