<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

ทองคำไม่ใช่สินทรัพย์ปลอดภัยอีกต่อไป? มูลค่าหาย 2.5 ล้านล้านเหรียญ ใน 2 วัน-Bitcoin นิ่งกว่า?

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

หลังจากที่ราคาทองคำเพิ่งจะพุ่งทะยานทำสถิติสูงสุดใหม่ตลอดกาลไปหมาดๆ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ตลาดโลหะมีค่าก็กลับต้องเผชิญกับแรงเทขายอย่างหนักในวันอังคาร ส่งผลให้ราคาทองคำและแร่เงิน “ดิ่งเหว” ลงอย่างรุนแรง ถือเป็นการปรับฐานครั้งใหญ่ที่สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนจำนวนมากที่กำลังคาดหวังว่าราคาจะเดินหน้าทำสถิติใหม่ต่อไป

การเทขายครั้งประวัติศาสตร์นี้ทำให้มูลค่าตลาดรวมของทองคำหายไปถึง 2.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในเวลาเพียง 2 วัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตกใจอย่างยิ่ง เพราะมันมากกว่ามูลค่าตลาดรวมทั้งหมดของ Bitcoin เสียอีก

8% ใน 2 วัน การปรับฐานที่ ‘ผิดปกติ’ อย่างยิ่ง

ราคาทองคำ Spot ร่วงลงถึง 8% ในช่วงสองวันที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลงที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2013 อเล็กซานเดอร์ สตาเฮล (Alexander Stahel) นักลงทุนด้านทรัพยากรในสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งข้อสังเกตว่า ตามสถิติแล้ว การร่วงลงที่รุนแรงขนาดนี้ควรจะเกิดขึ้นเพียง “หนึ่งครั้งในทุกๆ 240,000 วันทำการ” เท่านั้น

สตาเฮลชี้ว่า สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากการที่นักลงทุนเกิดอาการ “กลัวตกรถ” (FOMO) หลังจากที่ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง ทำให้เกิดแรงซื้อเข้ามาอย่างมหาศาล “FOMO คือสาเหตุที่ทำให้ราคาพุ่งขึ้นรอบล่าสุด ตอนนี้ การเทขายทำกำไรและนักลงทุนที่ใจไม่สู้ก็ถูกสลัดออกไป” เขากล่าว

Bitcoin ยัง ‘นิ่ง’ กว่า? แต่ความกลัวปกคลุมตลาด

แม้ว่า Bitcoin ซึ่งมักถูกเปรียบเปรยว่าเป็น “ทองคำดิจิทัล” จะขึ้นชื่อเรื่องความผันผวนที่รุนแรงกว่า แต่การพังทลายของราคาทองคำครั้งนี้ก็ตอกย้ำว่า แม้แต่สินทรัพย์ที่ถูกมองว่าเป็น “หลุมหลบภัย” ก็ไม่ได้มีภูมิคุ้มกันต่อการเทขายอย่างรุนแรงเสมอไป

“ถ้าดูจากมูลค่าตลาด การลดลงของทองคำในวันนี้เทียบเท่ากับ 55% ของมูลค่าคริปโทเคอร์เรนซีทั้งหมดที่มีอยู่ในปัจจุบันเลยทีเดียว” ปีเตอร์ แบรนด์ท (Peter Brandt) เทรดเดอร์รุ่นเก๋ากล่าวบน X

ในขณะที่ทองคำดิ่งเหว Bitcoin กลับปรับตัวลดลงเพียงเล็กน้อยประมาณ 0.8% ในรอบวัน และกองทุน Spot Bitcoin ETF ก็ยังมีเงินทุนไหลเข้าอยู่ 142 ล้านดอลลาร์เมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของตลาดคริปโตกลับดูไม่สู้ดีนัก โดยดัชนี Crypto Fear & Greed ได้ดิ่งลงสู่ระดับ “Extreme Fear” (กลัวสุดขีด) ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2022

ดัชนี Crypto Fear & Greed ที่มา: Alternative.me

มองไปข้างหน้า โอกาสหรือวิกฤต?

การดิ่งลงอย่างรุนแรงของราคาทองคำครั้งนี้ แม้จะน่าตกใจ แต่ก็ไม่ได้ลบล้างแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงที่ยังคงมีอยู่ ทั้งเรื่องเงินเฟ้อ, การเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงิน และความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์

นักวิเคราะห์แนะนำว่า นักลงทุนควรใจเย็นและมุ่งเน้นไปที่แนวโน้มระยะยาว มากกว่าที่จะตื่นตระหนกไปกับการเคลื่อนไหวในระยะสั้น การปรับฐานครั้งนี้อาจเป็น “โอกาสในการเข้าซื้อ” สำหรับนักลงทุนระยะยาวก็เป็นได้

ที่มา: cointelegraph