ราคา Bitcoin (BTC) ได้ร่วงลงต่ำกว่าระดับจิตวิทยาที่ $100,000 อีกครั้งเป็นรอบที่สองในสัปดาห์นี้ (ในช่วงเช้าวันศุกร์) โดยราคาปรับตัวลดลง 2.7% ใน 24 ชั่วโมง และร่วงลงไปแล้วถึง 9.1% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อน

นักวิเคราะห์ชี้ แค่ “สลัดเม่า” ไม่ใช่ “ขาลง”
“การที่ Bitcoin ร่วงหลุด $100K นี้ ดูเหมือนเป็น ‘การสลัดเม่ากลางรอบ’ (Mid-cycle shakeout) มากกว่าจะเป็นการกลับตัวเป็นขาลงถาวร” ดีน เฉิน (Dean Chen) นักวิเคราะห์จาก Bitunix กล่าว
เขายังชี้ให้เห็นสัญญาณบวกที่ซ่อนอยู่ว่า ข้อมูลจากกองทุน ETF ยังคงมี “เงินไหลเข้าสุทธิ” (Net Inflow) ถึง 239 ล้านดอลลาร์ “ภาพรวมการไหลเวียนของเงินทุนบ่งชี้ว่านี่คือการ ‘หมุนเวียนกลุ่มลงทุน’ (Rotation) ไม่ใช่การ ‘หนีออกจากตลาด’ (Exit)”
ที่สำคัญ กองทุน Bitcoin ETF เพิ่งจะสามารถหยุดสถิติ “เงินไหลออก” (Redeem) ติดต่อกัน 6 วันได้สำเร็จ ซึ่งก่อนหน้านี้เกือบจะเป็นสัปดาห์ที่เลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เปิดตัวกองทุนมา
ต้นตอความผันผวน ตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ ‘เหวี่ยงหนัก’
จิม รีด (Jim Reid) นักวิเคราะห์จาก Deutsche Bank ชี้ว่า ความผันผวนในตลาดเกิดจากความปั่นป่วนอย่างหนักของ “ตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ”
เขาระบุว่าในวันพุธ อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Yield) ดีดตัวขึ้นหลังจากข้อมูลการจ้างงาน (ADP) ออกมาดี แต่พอถึงวันพฤหัสบดี “สถานการณ์ก็กลับตาลปัตร” ทันทีหลังจากมีรายงานตัวเลขการเลิกจ้างที่อ่อนแอออกมา ทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี ร่วงลงถึง -7.6bps ซึ่งเป็นการร่วงลงรายวันที่หนักที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตภาษีจีนของทรัมป์เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม การแกว่งตัวนี้ได้กระตุ้นให้เกิดการเทขายสินทรัพย์เสี่ยง (Risk-Off) ทั่วโลก
นักวิเคราะห์เชื่อ “แค่รีเซ็ต Leverage ไม่ใช่พื้นฐานพัง”
อย่างไรก็ตาม ดีน เฉิน (Bitunix) เชื่อว่าสถานการณ์ยังไม่เลวร้ายเท่าวันที่ 10 ตุลาคม เขามองว่าปัจจัยมหภาคกำลัง “ค่อยๆ ดีขึ้น”
“ในเมื่อ Fed กำลังจะยุติ QT (การดึงสภาพคล่องกลับ) ในวันที่ 1 ธันวาคม และได้ลดดอกเบี้ยไปแล้วในเดือนกันยายนและตุลาคม สภาพคล่องกำลังจะค่อยๆ กลับมาสนับสนุนตลาดอีกครั้ง” เขากล่าว “ภาพรวมนี้ทำให้การย่อตัวครั้งนี้เป็นเพียง ‘การรีเซ็ต Leverage’ ไม่ใช่ ‘การเสื่อมโทรมของปัจจัยพื้นฐาน'”
ในตลาดคาดการณ์ Myriad นักเทรดก็ยังคงมองบวก โดยให้น้ำหนัก 55.5% ว่าก้าวต่อไปของ Bitcoin คือการไปที่ $115,000 มากกว่าที่จะร่วงลงไป $85,000
ที่มา: decrypt

