<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

จีนเร่งอัดฉีดหนัก! M2 พุ่งแตะ 335 ล้านล้านหยวน นักวิเคราะห์ชี้สหรัฐฯ อาจตามรอย

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

การเติบโตของปริมาณเงิน M2 ของประเทศจีน ได้กลายเป็นประเด็นร้อนที่ถูกนำมาวิเคราะห์ในตลาดการเงินทั่วโลก โดยตัวเลขล่าสุด ณ เดือนพฤศจิกายน 2025 ชี้ว่าปริมาณเงิน M2 ได้พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำสถิติแตะระดับ 335.38 ล้านล้านหยวน (CNY) ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้น 1.02% จากเดือนก่อนหน้า ตัวเลขมหาศาลนี้สะท้อนให้เห็นถึงนโยบายการขยายตัวทางการเงินที่ก้าวร้าวของธนาคารกลางจีน (PBOC) ที่มีอำนาจในการพิมพ์เงินหยวนเพื่อจัดการอัตราแลกเปลี่ยนและกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจที่เน้นการส่งออก ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่แตกต่างจากประเทศตลาดเสรี

การขยายตัวของปริมาณเงินในจีนครั้งนี้ได้กระตุ้นให้เกิดการคาดการณ์ในวงกว้าง โดยมีนักวิเคราะห์บางส่วนเชื่อว่าสหรัฐอเมริกาจะดำเนินการในลักษณะเดียวกันเพื่ออัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน หากเศรษฐกิจหลักทั้งสองท่วมท้นระบบด้วยสภาพคล่อง คลื่นเงินทุนทั่วโลกนี้จะไหลเข้าสู่สินทรัพย์ที่มีความหายาก (Scarce Assets) โดย Bitcoin ถูกมองว่าเป็นผู้รับประโยชน์ที่ชัดเจนที่สุดจากการพิมพ์เงินพร้อมกันของเศรษฐกิจรายใหญ่ เพราะมันคือสินทรัพย์ที่ถูกออกแบบมาให้มีอุปทานจำกัด ซึ่งการอัดฉีดเงินจะผลักดันให้ราคาของสินทรัพย์โดยทั่วไปพุ่งสูงขึ้น แม้จะมีความเสี่ยงเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นตามมาก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ยังมีเสียงเตือนที่มาพร้อมกับการมองโลกในแง่ดีนี้ โดยนักวิเคราะห์บางรายชี้ว่า การพิมพ์เงินอย่างบ้าคลั่งไม่ได้เป็นหลักประกันว่าราคา Bitcoin จะพุ่งขึ้นเสมอไป พวกเขามองว่าหากสภาพคล่องที่ถูกพิมพ์ออกมานั้นถูก “ขัง” อยู่ในตลาดสินเชื่อ หรือถูกนำไปค้ำจุนหนี้สินเก่า ๆ เงินเหล่านั้นก็อาจไม่ไหลเข้าสู่ตลาดคริปโต ทำให้ Bitcoin ได้รับเพียง “เศษอาหาร” จากสภาพคล่องที่ถูกอัดฉีด

ดังนั้น แม้การขยายตัวของปริมาณเงินในจีนจะเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง แต่ตลาดคริปโตยังคงต้องจับตาดูว่าเงินทุนเหล่านั้นจะสามารถไหลผ่านจากตลาดการเงินแบบดั้งเดิมเข้าสู่ระบบนิเวศคริปโตได้มากน้อยเพียงใด การเคลื่อนไหวของสภาพคล่องในตลาดโลกจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดทิศทางราคาของ Bitcoin ในช่วงต่อไป.

ที่มา: cryptorover