Tether ผู้ออกเหรียญ Stablecoin ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อย่าง USDT กำลังตกเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจอีกครั้ง หลังจากที่ Arthur Hayes อดีตผู้ก่อตั้ง BitMEX ได้ออกมาเตือนว่า Tether อาจกำลัง “เสี่ยงเกินตัว” ในการบริหารเงินทุนสำรองของตนเอง
Arthur Hayes ชี้ว่า Tether มีการจัดสรรงบดุลที่เดิมพันกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย โดยเน้นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดีในสภาวะดอกเบี้ยสูง แต่หากเกิดกรณีที่ราคาทองคำ และราคา Bitcoin ซึ่ง Tether ถือเป็นส่วนหนึ่งของเงินสำรอง เกิดการร่วงลงอย่างรุนแรงพร้อมกัน อาจส่งผลให้เกิดการขาดทุนครั้งใหญ่ และกระทบต่อเสถียรภาพของเหรียญ USDT ได้
คำเตือนนี้ เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดคริปโตมีความผันผวนสูง โดยเฉพาะการที่ Bitcoin ได้ร่วงลงไปกว่า 20 % ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา ซึ่งตอกย้ำความเสี่ยงที่ต้องจับตาในการลงทุนของ Tether

Arthur Hayes อธิบายกลยุทธ์ของ Tether ว่า เป็นการ “เดิมพัน” กับธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) โดย Tether คาดการณ์ว่า Fed จะต้องลดอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า ซึ่งจะทำให้รายได้ที่ได้จากการถือทรัพย์สินปลอดภัย เช่น พันธบัตรสหรัฐฯ ลดลง
เพื่อรักษาระดับกำไร Tether จึงได้หันไปถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เป็น ทองคำมูลค่าประมาณ $13,000 ล้านดอลลาร์ และ Bitcoin อีกประมาณ $10,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสินทรัพย์เหล่านี้ กลายเป็นส่วนสำคัญของเงินทุนสำรองของบริษัท
Hayes เตือนอย่างชัดเจนว่า หากราคาทองคำและ Bitcoin ทั้งสองตัวนี้ร่วงลงพร้อมกันเพียง 30% อาจส่งผลให้ เงินทุนส่วนใหญ่ของ Tether หายไปจนเกือบหมด และทำให้เหรียญ USDT “มีความเสี่ยงที่จะล้มละลายในทางทฤษฎี”
ด้วยความเสี่ยงที่สูงนี้ Hayes คาดการณ์ว่า ผู้ถือเหรียญ USDT รายใหญ่และกระดานเทรดอาจเริ่มกดดันให้ Tether ต้องเปิดเผยข้อมูล “การสำรองเหรียญแบบเรียลไทม์” เพื่อพิสูจน์ความมั่นคงและคลายความวิตกกังวลในตลาด
ในขณะที่ Tether ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า บริษัทมีสินทรัพย์รวมกว่า $181,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่างบดุลของบางประเทศเสียอีก โดยส่วนใหญ่ยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง เช่น ตั๋วเงินคลังสหรัฐฯ, Repo, และ Money Market
อย่างไรก็ตาม Tether ก็ได้เพิ่มการลงทุนในกลุ่มสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นด้วย เช่น สินเชื่อ, บริษัทสตาร์ทอัพ, โลหะมีค่า, และ Bitcoin
ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ S&P ได้จัดให้ USDT มีคะแนนความมั่นคงในระดับ “อ่อนแอที่สุด” ซึ่งทาง Tether ได้ออกมาโต้กลับอย่างทันควันว่า “วิธีประเมินดังกล่าวล้าสมัย”
ลิงก์ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- S&P Ratings ลดอันดับ USDT จุดชนวนความตื่นตระหนกในตลาดคริปโตใต้ดินของจีน
- Tether ถือครองทองคำ 116 ตัน! ขึ้นแท่น ‘ราชาทองคำ’ เทียบชั้นคลังสำรองของเกาหลีใต้ ฮังการี กรีซ
ที่มา : cryptopolitan

