ธนาคารกลางอาร์เจนตินา (BCRA) กำลังร่างกฎระเบียบใหม่ที่จะอนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์สามารถนำเสนอบริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ลูกค้าได้ โดยคาดว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้เร็วที่สุดในเดือนเมษายนปี 2026
รายงานจากสื่อท้องถิ่น La Nacion ระบุว่า BCRA กำลังพิจารณายกเลิกข้อห้ามเดิมที่กีดกันไม่ให้ธนาคารทำธุรกรรมหรืออำนวยความสะดวกเกี่ยวกับคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงทิศทางครั้งสำคัญภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดี ฮาเวียร์ มิเลย์ (Javier Milei) ที่มีนโยบายสนับสนุนเสรีภาพทางการเงินและเป็นมิตรกับคริปโตมากขึ้นนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในปี 2023
เงินเฟ้อหลักร้อยดันคนหนีซบคริปโต
ความเคลื่อนไหวนี้คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการยอมรับคริปโตในอาร์เจนตินาให้สูงขึ้นไปอีก โดยปัจจุบันอาร์เจนตินาถือเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลกด้านการใช้งานคริปโตในระดับรากหญ้า สาเหตุหลักมาจากวิกฤตเศรษฐกิจที่รุนแรง อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงเป็นเลขสามหลัก และการควบคุมเงินทุนที่เข้มงวด ทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในสกุลเงินเปโซท้องถิ่น
ข้อมูลจาก Chainalysis ระบุว่า อาร์เจนตินามีผู้ใช้งานกระเป๋าเงินคริปโต (Active Wallet) มากถึง 10 ล้านบัญชี ซึ่งสูงเป็นอันดับที่ 15 ของโลก โดยในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคม 2023 ถึงมิถุนายน 2024 มีปริมาณธุรกรรมบนบล็อกเชนไหลเข้าประเทศสูงถึง 9.1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เป็นตลาดคริปโตที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุดในละตินอเมริกา
ที่น่าสนใจคือ กว่า 60% ของกิจกรรมเหล่านี้เกี่ยวข้องกับ Stablecoin (เช่น USDT) ซึ่งชาวอาร์เจนตินาใช้เป็นกลไกสำคัญในการเปลี่ยนเงินออมให้เป็นดอลลาร์ (Dollarize) เพื่อรักษามูลค่าและอำนาจการซื้อท่ามกลางค่าเงินที่ผันผวน
จับตากฎระเบียบใหม่เทียบเพื่อนบ้าน
ในภูมิภาคละตินอเมริกา บราซิลถือเป็นประเทศที่มีกฎหมายชัดเจนและครอบคลุมที่สุดในการอนุญาตและกำกับดูแลให้ธนาคารพาณิชย์ให้บริการคริปโต ในขณะที่ปานามามีท่าทีเปิดกว้างแต่ยังขาดกรอบการทำงานจากธนาคารกลาง ส่วนเอลซัลวาดอร์ ซึ่งเป็นประเทศแรกที่ประกาศให้ Bitcoin ถูกกฎหมายในปี 2021 ก็เพิ่งจะเริ่มใช้กฎหมายการธนาคารใหม่เมื่อเดือนสิงหาคม 2025 เพื่ออนุญาตให้ธนาคารเอกชนเสนอบริการสินทรัพย์ดิจิทัลแก่กลุ่มนักลงทุนรายใหญ่เท่านั้น
การเปิดประตูของธนาคารกลางอาร์เจนตินาในครั้งนี้ จึงถือเป็นก้าวสำคัญที่จะนำสินทรัพย์ดิจิทัลเข้าสู่ระบบการเงินกระแสหลักของประเทศอย่างเต็มรูปแบบ เพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนที่ต้องการทางรอดจากวิกฤตเศรษฐกิจ
ที่มา: lanacion

