เหรียญ Ethereum หรือ ETH นั้นได้มีการถูกเทขายอย่างรุนแรงเมื่อไม่นานมานี้ โดยส่งผลให้ราคาตกไปอยู่ถึง 0.10 ดอลลาร์ต่อเหรียญ
สาเหตุนั้นเป็นเพราะปัจจัยหลายๆอย่าง โดยที่ใหญ่ๆก็คือการเทขายครั้งใหญ่ของใครบางคน และ ICO อีกสองตัวที่ทำให้ระบบเครือข่ายนั้นต้องล่าช้าและหยุดชะงัก และรวมไปถึงปัญหาทางเทคนิคของเว็บเทรดบางเว็บ
ดูเหมือนตัวแปรที่ทำให้ราคาร่วงหนักที่สุดคือ GDAX ที่มีการเทขายเหรียญ ETH ถึง 96,100 เหรียญ “ซึ่งส่งผลให้ราคาถูกกดลงจาก 317.81 ดอลลาร์เหลือ 224.28 ดอลลาร์ โดยเบื้องต้นนั้นเกิดการ Slippage (เหตุการณ์ที่เกิดปัญหาขัดข้องทางระบบของเว็บเทรดที่ล่าช้าจนส่งผลให้ราคาที่ลงซื้อขาย กับราคาที่ซื้อขายจริงต่างกัน) ซึ่งคิดเป็น 29.4 เปอร์เซนต์ รองประธานของ GDAX นามว่า Adam White นั้นได้โพสอธิบายเหตุการณ์ไว้ดังนี้
“เหตุการณ์ Slippage นั้นได้ส่งผลทำให้เกิดการ stop loss ประมาณ 800 ออเดอร์ซื้อขาย และทำให้มีคนโดน liquidate ไปเยอะมาก จนส่งผลให้ราคาเหรียญ ETH ร่วงลงมาถึง 0.10 ดอลลาร์”
โดยหลังจากนั้น เหตุการณ์นี้ก็ได้ส่งผลเป็นลูกโซ่ต่อเว็บเทรดอื่นๆ ซึ่งดูเหมือนว่าการตกของราคาบนเว็บ GDAX นั้นจะร่วงไปถึงแค่ 13 ดอลลาร์
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมานั้น ก็ได้มีการซื้อขาย ICO ของเหรียญ Civic ของนาย Vinny Lingham โดยหลังจากที่การเปิดขายเกิดขึ้นได้ไม่นานนั้น นาย Vinny ก็ประกาศหยุดขายชั่วคราวเนื่องจากระบบเครือข่ายของ Ethereum นั้นเกิดอาการคอขวด
ในขณะที่เหรียญ ICO ของ Status นั้นถูกวิพากษ์วิจารณ์จากนักลงทุนอย่างรุนแรง เนื่องจากระบบที่ไม่เสถียร ซึ่งทำให้การซื้อขายเกิดการขัดข้อง
“ระบบของ Status ICO ที่ถูกออกแบบมาอย่างไม่ได้เรื่องทำให้เกิดอาการติดขัดในเครือข่ายเมื่อวันที่เปิดขาย เพราะว่ามีจำนวนผู้ซื้อที่พยายามโอนเหรียญ ETH แบบหลั่งไหลเข้ามามาก ซึ่งเหรียญที่โอนเข้ามานั้นเกิดปัญหา error ซะเป็นส่วนใหญ่ จนทำให้ไปขัดขวางเหรียญใหม่ๆที่พยายามจะโอนเข้ามา” กล่าวโดยผู้ใช้รายหนึ่งบน Reddit
หลังจากนั้นราคาของเหรียญ ETH ก็ดีดตัวกลับขึ้นมาที่ราคา 335 ดอลลาร์ และคงตัวอยู่ที่ระดับ 320-330 ดอลลาร์