รายงานจากประกาศเมื่อวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมา ธนาคารแห่งชาติของคูเวต (NBK) ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ที่ใช้สำหรับการทำธุรกรรมข้ามประเทศด้วยเทคโนโลยี Blockchain ของ RippleNet แล้ว
NBK ก่อตั้งในปี 1952 และปัจจุบันเป็นสถาบันการเงินที่มีสินทรัพย์มากที่สุดในคูเวต อ้างอิงจากรายงานประจำปีของธนาคาร พวกเขาถือครองสินทรัพย์มูลค่ากว่า 86.3 พันล้านดอลลาร์
NBK สร้างผลิตภัณฑ์จาก Ripple
การเปิดตัวครั้งนี้จะทำให้ NBK เป็นสถาบันการเงินแรกในคูเวตที่สร้างผลิตภัณฑ์สำหรับการชำระเงินข้ามประเทศ (นาม NBK Direct Remit) ด้วย Blockchain ของ Ripple เนื่องจากเข้าร่วมกับ RippleNet แล้วโดยมีความตั้งใจที่จะทำให้การทำธุรกรรมข้ามพรมแดนมีความรวดเร็วมากขึ้น
RippleNet คือ เครือข่ายของบริษัท Ripple ที่มีสถาบันการเงินและธนาคารใหญ่ ๆ ทั่วโลกเข้าร่วมอยู่จำนวนมาก (มีธนาคารไทยพาณิชย์ในไทยเข้าร่วมอยู่ด้วย) โดยสมาชิกในเครือข่ายจะสามารถใช้ Blockchain ของ Ripple ในการส่งเงินข้ามประเทศหรือระหว่างธนาคารได้ในต้นทุนที่ต่ำและมีความรวดเร็วสูง
นาย Dimitrios Kokosioulis รอง CEO ขององค์กรกล่าวว่า Solution ด้าน Blockchain จะทำให้ลูกค้าของธนาคารส่งเงินได้ภายใน “ไม่กี่วินาที” และ “ตอนไหนก็ได้” โดยนาย Kokosioulis ย้ำเพิ่มเติมว่า บริการดังกล่าวจะเริ่มใช้ในจอร์แดนก่อนจะขยายไปยังประเทศอื่น ๆ
เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา CIMB Group เครือธนาคารยักษ์ใหญ่ในมาเลเซียเองก็ได้เข้ามร่วมกับ RippleNET โดยพวกเขาจะนำเทคโนโลยีของ Ripple ไปรวมเข้ากับบริการ “SpeedSend” ที่มีอยู่แล้ว ทำให้การส่งเงินเกิดขึ้นได้รวดเร็วและถูกลงไปอีก
ในเดือนเดียวกันนั้น Mitsubishi UFJ Financial Group ธนาคารยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่นเองก็ได้ประกาศว่า จะเริ่มใช้ Ripple ในการสร้างบริการทำธุรกรรมข้ามประเทศไปยังบราซิล โดยการจับมือกับ Banco Bradesco ซึ่งตั้งใจจะให้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว “ช่วยเหลือธนาคารให้มี Solution ในการส่งเงินข้ามประเทศแบบความเร็วสูง, โปร่งใสและตรวจสอบได้ระหว่างญี่ปุ่นและบราซิล”
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา Coinone Transfer ธุรกิจที่ให้บริการส่งเงินและเป็นบริษัทลูกของเว็บเทรดคริปโต Coinone ได้ทำการเปิดตัว Cross แอปฯ ในมือถือและบริการในเว็บที่ช่วยส่งเงินด้วย Blockchain ตัวแรกของเกาหลีใต้ ซึ่งกำลังจะให้บริการในไทยและประเทศฟิลิปปินส์ในเร็ว ๆ นี้แล้ว
ในปี 2018 ในปีนี้ ถึงแม้ Ripple จะเจอเสียงวิพากษ์วิจารณ์อยู่ตลอด แต่ดูเหมือนพวกเขาก็เดินหน้าจับมือกับธนาคารทั่วโลกเรื่อย ๆ ซึ่งต้องดูต่อไปในปี 2019 ว่าการจับมือเหล่านั้นเริ่มส่งผลให้มีการใช้งานจริงหรือไม่
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น