รายงานจาก Pr News Wire เผยว่าในวันที่ 22 มี.ค. 2019 Linh Thanh Group บริษัทจัดจำหน่ายรายใหญ่แห่งประเทศเวียดนามร่วมด้วย KRONN Ventures AG บริษัทด้าน Blockchain จากเมือง Zug ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ได้ลงนาม MOU ในการสร้างผลิตภัณฑ์ด้านคริปโตเคอร์เรนซีและเว็บเทรดคริปโตในเวียดนาม ซึ่งได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลในการก่อตั้งเว็บเทรดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ในเดือน ต.ค. ปี 2018 KRONN Ventures AG ร่วมมือเป็นคอนโซเทียมกับคณะกรรมการด้านการเงินกับ 5 ประเทศในอาเซียน ซึ่งก็คือเวียดนาม ฟิลิปปินส์ กัมพูชา บังกลาเทศและศรีลังกา เพื่อสร้างระบบสายไฟนานาชาติโดยใช้เทคโนโลยี Blockchain ที่เหมาะสมกับบริบทของอาเซียน ตั้งแต่ที่ประเทศเวียดนามและ Linh Thanh Group ได้กลายเป็นประเทศแรกที่ได้ทำข้อตกลงนี้ คอนโซเทียมในประเทศอื่น ๆ ก็เริ่มกังวลว่าพวกเขาจะพลาดโอกาสที่จะเริ่มต้นสร้างระบบสายไฟข้ามชาติทั่วเอเชียโดยใช้ Blockchain
ประกาศอย่างเป็นทางการจาก Linh Thanh Group เผยว่าทางบริษัทได้ร่วมมือกับ KRONN Ventures ในการก่อตั้งเว็บ Exchange และพวกเขาเชื่อมั่นว่าเว็บ Exchange นี้จะกลายเป็นเว็บชั้นนำของโลกเพราะ KRONN Ventures เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายในฐานะที่เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี Blockchain ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้งได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในลอนดอน King College ด้านการวิจัยถึงการอำนวยความสะดวกหากนำ AI มาใช้งานด้วย
ความคาดหวังของอุตสาหกรรมคือการรวมเครือข่ายที่การกระจัดกระจายของ Linh Thanh Group ซึ่งใหญ่ที่สุดในเวียดนามเข้ากับเทคโนโลยีระดับโลกของ KRONN Ventures ซึ่งจะส่งผลกระทบไม่เพียงแต่ในประเทศเวียดนามเท่านั้นแต่จะส่งผลไปทั่วประเทศในอาเซียน
เมื่อเร็ว ๆ นี้ราคา Bitcoin และเหรียญคริปโตอื่น ๆ มีแนวโน้มลดลงในตลาด ทำให้มีความคิดเห็นออกเป็นสองแง่ คือกลุ่มหนึ่งทำนายว่าตลาดคริปโตอยู่ในสภาวะถดถอย ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งเห็นว่าเป็นการเข้าสู่ช่วงเวลาที่ราคากำลังจะเสถียรหลังจากเกิดสภาวะฟองสบู่มากเกินไปจากการเก็งกำไร
ท่ามกลางความคิดเห็นที่หลากหลาย ธนาคารขนาดใหญ่ในประเทศที่พัฒนาแล้วรวมถึง Wall Street กำลังเพิ่มการลงทุนด้านเทคโนโลยี Blockchain และสกุลเงินดิจิตอล ส่วนประเทศกำลังพัฒนาในอาเซียนรวมถึงประเทศเวียดนามก็กำลังลงทุนจำนวนมหาศาลในการพัฒนาสกุลเงินดิจิตอลและเทคโนโลยี Blockchain แต่กระนั้นบางประเทศก็ยังคงมีมุมมองเชิงลบและพยายามไม่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับเทคโนโลยีนี้
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น