หลังจากได้มีการดำเนินการทดสอบเทคโนโลยี distributed ledger มาตั้งแต่ช่วงปี 2017 ธนาคารแห่งชาติของประเทศกำพูชา ได้วางแผนที่จะเปิดตัวระบบการชำระเงินซึ่งใช้เทคโนโลยี Blockchain แก่ธนาคารทั้ง 10 สาขา ภายในปลายปีนี้ โดยมุ่งเป้าให้เป็นประเทศแรกที่ธนาคารกลางนำระบบดังกล่าวมาใช้
ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
อ้างอิงจากรายงานของสภาเศรษฐกิจโลก ธนาคารแห่งชาติของประเทศกัมพูชานั้นมองว่าการนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาใช้สามารถที่จะแก้ไขปัญหาสองประการที่เกิดขึ้นดังนี้
ประการแรก: คือเป็นการแก้ปัญหากรณีประชาชนซึ่งอยู่นอกระบบการธนาคารของประเทศ โดยการตัดขั้นตอนพิธีที่ยุ่งยากออกไป ประกอบกับการผสมผสานการดำเนินธุรกรรมเข้ากับการอุปกรณ์อิเล็กทรนิกส์ต่างๆอย่างโทรศัพท์มือถือ ส่งผลเป็นการผลักดันเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
ประการที่สอง: คือเป็นการแก้ปัญหาด้านประสิทธิภาพ ซึ่งเกิดขึ้นจากความไม่ลงรอยกันระหว่างระบบการชำระเงินที่แตกต่างกันภายในประเทศ เช่นระบบของเอกชน และระบบของธนาคารแห่งชาติ ก่อให้เกิดความสับสนทางบัญชีอย่างมาก ดังนั้นทางธนาคารแห่งชาติจึงหวังที่จะนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้เพื่อสร้างบริการระบบการชำระเงินที่มีสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทางธนาคารของกัมพูชาเป็นเพียงหนึ่งในกว่า 40 ประเทศ
อย่างไรก็ตาม รายงานของสภาเศรษฐกิจโลกยังได้เปิดเผยถึงประเทศอื่นๆกว่า 40 ประเทศซึ่งมีแผนการในการนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้ในประเทศของตนในอนาคต เช่นธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ, ประเทศแคนนาดา และประเทศสิงคโปร์ หรือในกรณีธนาคารแห่งประเทศลิทัวเนียซึ่งได้มีการทดสอบระบบสกุลเงินคริปโตแบบ Real-time ขึ้นด้วย โดยบางส่วนได้วางแผนที่จะเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางของแต่ละประเทศ หรือ CBDCs (central bank digital currencies) ซึ่งต่างมองว่าเป็นตัวเลือกที่ประหยัดและมีประสิทธิภาพที่สุด
กล่าวโดยสรุปแล้วธนาคารแห่งชาติของประเทศกัมพูชานั้นยังคงเป็นประเทศเดียวที่จะดำเนินการเปิดตัวระบบการชำระเงินซึ่งใช้เทคโนโลยี Blockchain ในปีนี้ ซึ่งหากโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จ จะเป็นตัวอย่างให้แก่ประเทศอื่นๆที่จะดำเนินการต่อมาได้อย่างดี
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น