ซีอีโอของบริษัทที่ปรึกษาด้านการเงิน deVere Group กล่าวว่าการเคลื่อนไหวของราคา Bitcoin เมื่อไม่นานมานี้แสดงให้เห็นว่าสกุลเงินคริปโตเคอเรนซี่อันดับหนึ่งกำลังก่อตัวเพื่อเปลี่ยนสถานะไปเป็นรูปแบบทองคำดิจิทัล
Nigel Green เชื่อว่าราคา Bitcoin จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2019 และไปแตะ 15,000 ดอลลาร์ในที่สุด ตามรายงานจาก The Independent
“สกุลเงินดิจิทัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Bitcoin มีราคาเพิ่มขึ้นมาถึง 10% ขณะที่หุ้นทั่วโลกร่วงลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการปรับลดค่าเงินหยวนของจีนในช่วงสงครามการค้ากับสหรัฐ
นี่คงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ซึ่งมันแสดงให้เห็นว่า Bitcoin กำลังกลายเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงเวลาที่ตลาดเกิดความไม่แน่นอน
ปัจจุบัน Bitcoin ได้เปลี่ยนสถานะกลายเป็นทองคำดิจิทัล ซึ่งทุกคนคงทราบกันดีว่าทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยที่สุดในโลก (safe-haven asset) แต่ bitcoin นั่นมีคุณสมบัติที่สำคัญของการเป็นสถานที่จัดเก็บมูลค่าและหายาก มันสามารถแทนที่ทองคำได้ในอนาคต เมื่อโลกเริ่มเข้าสู่ยุคดิจิทัลมากขึ้น ”
เส้นสีเขียวยังคงเน้นประสิทธิภาพการทำงานของ Bitcoin บน Google Trends และ Twitter ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในช่วงสงครามการค้า
“โลกนี้มันบ้า ประธานาธิบดีสหรัฐพยายามลดค่าเงินดอลลาร์ผ่าน Twitter และ Boris เตรียมที่จะดำเนินการ Brexit แม้จะรู้ว่ามันเป็นสาเหตุของภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทรัมป์สร้างสงครามการค้าขึ้นมาโดยไม่รู้เลยว่าใครจะเป็นผู้ชนะ”
Bitcoin is getting more attention on #google trends . #Bitcoin hit a record number of hashtags this week on week. The more interest the price moves up ? pic.twitter.com/iEa2i6Jwh1
— Nigel Green (@nigeljgreen) August 11, 2019
ในขณะเดียวกัน CNBC กำลังคาดเดาอนาคตของตลาดหุ้นว่าจะเป็นเช่นไรในสัปดาห์หน้า
Sam Stovall หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์การลงทุนของ CFRA เขาเชื่อว่าตลาดหุ้นจะมีการฟื้นตัวและสามารถกลับมาที่จุดสูงสุดได้อีกครั้งในช่วงปลายเดือนสิงหาคม
“ ผมคิดว่าเรากำลังกลับไปทดสอบราคาเดิมของเดือนพฤษภาคมและมันก็ทำได้สำเร็จ เราอาจถูกดึงกลับในเร็ว ๆ นี้และเราอาจจะกลับไปที่เดิมอย่างรวดเร็ว ประวัติศาสตร์ได้บอกพวกเราว่าจะไปถึงที่ตรงนั้นภายในสิ้นเดือน ซึ่งหมายความว่าภายในสิ้นเดือนนี้เราอาจกลับไปปิดที่ราคาสูงสุดใหม่อีกครั้ง”
Ward McCarthy หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์การเงินของ Jefferies นั้นไม่ค่อยมีความมั่นใจเท่าไหร่นัก ซึ่งการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกในครั้งนี้ล้วนมาจากการทำของทำเนียบขาว
“ ความตึงเครียดทางการค้าทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง การเติบโตของเศรษฐกิจในสหรัฐชะลอตัวลงและทำให้เงินเฟ้อชะลอตัวลง ค่อนข้างชัดเจน นั่นคือเรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นจากทำเนียบขาว… ขณะที่สิ่งต่าง ๆ เร่งตัวเพิ่มขึ้น ตลาดกำลังเผชิญกับสิ่งแปลกปลอมที่ไม่รู้จักและตอนนี้คุณก็เริ่มสังเกตุเห็นคนที่กังวลเกี่ยวกับสิ่งแปลกปลอมที่พวกเขาไม่รู้จัก เรากำลังอยู่ในดินแดนที่อันตราย
มีการข่าวแพร่กระจายออกไปอย่างกว้างขวางว่า การแข่งขันในครั้งนี้ได้ทำให้อัตราผลตอบแทนมุ่งไปสู่จุดที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์และไม่จำเป็นว่าสหรัฐฯ จะต้องผลักดันอะไรในเรื่องนี้ เพราะความจริงก็คือเราเป็นตลาดที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุด”
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น