<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

เจ้ามือหรือ ‘วาฬ’ นั้นมีอิทธิพลต่อราคาของ Bitcoin ขนาดไหน

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

บุคคลหรือกลุ่มบุคคลบางรายซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สินทรัพย์ในมือของพวกเขานั้นมีอิทธิพลมากพอที่การเปลี่ยนแปลงของอัตราสินทรัพย์ดังกล่าวสามารถที่จะส่งผลกระทบต่อตลาดได้ตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยไปจนถึงการเปลี่ยนทิศทางของตลาดเลยทีเดียว ซึ่งพวกเขาเหล่านี้ได้ถูกเรียกว่า “วาฬ” หรือ “Whale” ประจำท้องทะเลของตลาดสินทรัพย์ต่างๆนั่นอง 

ที่มาของชื่อเรียกดังกล่าวนั้นได้เกิดขึ้นในช่วงปี 2012 โดยหนึ่งในอดีตนักลงทุนของบริษัท J.P. Morgan อย่างนาย Bruno Iksil นั้นได้สร้างความเสียหายให้กับฝ่ายการลงทุนของบริษัทในกรซื้อขายเครดิตอนุพันธ์ของทางธนาคารดังกล่าวจากการซื้อขายครั้งใหญ่ในตลาดสินทรัพย์ดังกล่าว ส่งผลให้ตัวเขาได้รับการขนานนามว่า “วาฬแห่งกรุงลอนดอน” เลยทีเดียว 

ดังนั้นแล้วในบนความนี้จึงได้จับประเด็นของ “วาฬ” ในตลาดคริปโตซึ่งเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวนักลงทุนและสาวกคริปโตอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาอัตรามูลค่ารวมของตลาดซึ่งอยู่ที่ราวๆ 3.5 แสนล้านดอลลาร์โดยเทียบกับปริมาณอัตราส่วนของผู้ถือครองสินทรัพย์คริปโตทั้งหมดในตลาดแล้วจะพบว่าการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นนั้น อาจส่งผลรุนแรงต่อตลาดคริปโตมากกว่าที่เกิดขึ้นในตลาดสินทรัพย์ปกติที่มีมูลค่ารวมของตลาดสูงกว่าหลายเท่านั่นเอง

ใครคือ “วาฬ” ในตลาด Bitcoin กันแน่ ?

กรณีตัวอย่างที่เกิดขึ้นในตลาดอย่างเช่นกรณีของนาย Nobuaki Kobayashi ซึ่งได้ทำการเทขายเหรียญ Bitcoin จำนวนกว่า 36,000 เหรียญในระหว่างช่วงเดือนธันวาคมของปี 2017 และช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้โดยได้แบ่งการเทขายออกเป็นจำนวนห้าครั้งนั้นได้ส่งผลกระทบต่อราคาของเหรียญอย่างมากตามกราฟด่านล่างนั่นเอง

อ้างอิงจากข้อมูลทางสถิติแล้วจะพบว่ามีผู้คนเพียงกว่า 1,000 คนเท่านั้นที่ถือครองสินทรัพย์กว่า 40% ของตลาด Bitcoin ดังนั้นแล้วจึงจะเห็นได้ว่าอัตราการถือครองเหรียญของ “วาฬ” ในตลาดนั้นมีปริมาณสูงมาก ดังนั้นแล้ว “วาฬ” ในที่นี้จึงอาจเป็นได้ทั้งผู้ซึ่งเข้าตลาด Bitcoin ตั้งแต่ในช่วงแรกของการเกิดขี้นของเหรียญดังกล่าว หรือแม้กระทั่งนักลงทุนหน้าใหม่ในตลาดที่มีต้นทุนปริมาณมากและต้องการที่จะสร้างผลกำไรตอบแทนในอัตราที่สูงนั่นโดยการดำเนินการซื้อขายในปริมาณมากๆนั่นเอง

นอกจากนี้แล้วกรณียังสามารถที่จะหมายถึงเหล่านักลงทุนสถาบันต่างๆ รวมทั้งเหล่ากองทุนที่มีการดำเนินการเกี่ยวกับสินทรัพย์คริปโตอย่าง Hedge Fund หรือแม้แต่เหล่าผู้ประกอบการซึ่งให้บริการในการซื้อขายสกุลเงินคริปโตในปริมาณมากๆนอกแพลตฟอร์มการซื้อขายแลกเปลี่ยนอีกด้วย

การซื้อขายของ “วาฬ” เหล่านี้ทำอย่างไร ?

ตัวเลือกของการซื้อขายสกุลเงินคริปโตในปริมาณมากๆนั้นอาจแตกต่างกันไปตามเทคนิคของแต่ละคน โดยบางส่วนนั้นอาจดำเนินการซื้อขายผ่านทางแพลตฟอร์มการซื้อขายแลกเปลี่ยนขนาดใหญ่ซึ่งมีอัตราสภาพคล่องที่สูง ซึ่งตัวเลือกดังกล่าวนี้เป็นที่นิยมมาอย่างยาวนานตั้งแต่ในช่วงต้นของตลาด

อย่างไรก็ตามในระยะหลังของตลาดนีได้ปรากฎบริการการซื้อขายสกุลเงินคริปโตในปริมาณมากซึ่งเรียกว่าการซื้อขายโดยตรงหรือ Over-The-Counter trade (OTC) ซึ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่ต้องการจะซื้อขายเหรียญในปริมาณที่สูงโดยไม่ต้องดำเนินการผ่านแพลตฟอร์มการซื้อขายต่างๆรวมทั้งยังไม่ต้องเสี่ยงในการเปิดเผยตัวตนนั่นเอง

นอกจากนี้แล้วการซื้อขายแบบ OTC ยังเป็นการลดทอนผลกระทบโดยตรงจากการซื้อหรือขายเหรียญในปริมาณมากๆต่อตลาดโดยการที่ผู้ให้บริการนั้นได้กระจายการซื้อขายไปตามตลาดคริปโตต่างๆนั่นเอง ซึ่งผู้ให้บริการหลักๆอย่าง Cumberland หรือ Circle ก็ได้มีการให้บริการดังกล่าวโดยมีขั้นต่ำอยู่ที่ 100,000 และ 250,000 ดอลลาร์ต่อครั้งอีกด้วย

“วาฬ” นั้นอยู่ในตลาดเหรียญอื่นๆนอกจาก Bitcoin หรือไม่ ? 

สำหรับตลาดเหรียญอื่นๆนอกจาก Bitcoin หรือที่เรียกว่าตลาด Altcoins นั้นย่อมผู้ที่กุมสินทรัพย์อยู่เป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน โดยที่มาของ “วาฬ” ในตลาดเหล่านี้ย่อมแตกต่างกันไปตามแต่ละเหรียญ แต่ทั้งนี้เนื่องจากตลาดของ Altcoins ซึ่งมีมูลค่ารวมราวๆ 100 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้อิทธิพลของเหล่า “วาฬ” ในตลาดนั้นอาจส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงในตลาดอย่างมากได้ ดังนั้นแล้วนักลงทุนในตลาด Altcoins นั้นจึงจำเป็นที่จะต้องพิจารณาอัตราส่วนของผู้ถือครองเหรียญแต่ละเหรียญอย่างรอบคอบก่อนการลงทุนนั่นเอง

วิธีที่จะบอกว่ามี “วาฬ” กำลังดำเนินการซื้อขายอยู่ในตลาด

การเปลี่ยนแปลงของการเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ในตลาดในปริมาณที่สูงนั้นสามารถทีจะเข้ามาช่วยในการพิจารณาว่าการดำเนินการนั้นเป็นการดำเนินการของ “วาฬ” ในตลาดได้ โดยอาศัยการจับตาดูการเคลื่อนไหวของเหรียญจากบัญชีที่อยู่ของ Wallet ที่ถือเหรียญจำนวนมากไว้ เพื่อที่จะตื่นตัวอยู่เสมอเมื่อ Wallet เหล่านี้มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้เราสามารถที่จะจัดการกับพอร์มการลงทุนของเราได้อย่างทันท่วงที

กรณีที่ชัดเจนที่เกิดขึ้นนั้นอย่างเช่นในช่วงปลายปี 2017 นั้นนาย Roger Ver ได้ทำการโอนเหรียญ Bitcoin กว่า 25,000 เหรียญคิดเป็นมูลค่ากว่า 159 ล้านดอลลาร์ให้แก่บริษัทซึ่งดำเนินการซื้อขายเหรียญอย่าง Bifinex ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเพียงอย่างเดียวได้ส่งผลให้ราคาของเหรียญดังกล่าวร่วงลงมาเนื่องจากความกลัวของนักลงทุนว่าเหรียญปริมาณดังกล่าวจะถูกเทขายนั่นเอง

นอกจากนี้แล้วเรายังสามารถที่จะสังเกตุถึงการดำเนินการของ”วาฬ” ได้จากการพิจารณากระดานซื้อขายของแพลตฟอร์มแต่ละแห่ง ซึ่งหากปรากฎปริมาณการตั้งซื้อหรือตั้งขายในอัตราที่สูงกว่าปกติแล้ว อาจเป็นสัญญาณของ “วาฬ” ก็เป็นไปได้นั่นเอง ซึ่งกรณีดังกล่าวอาจแสดงถึงการปั่นราคาของนักลงทุนรายใหญ่เหล่านี้ในการสร้างความตกใจให้กับตลาดอีกด้วย

อีกหนึ่งวิธีในการพิจารณาการดำเนินการของ “วาฬ” ในตลาดนั้นคือการเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตลาดของเหรียญแต่ละเหรียญ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วหากมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านราคาอย่างมากโดยไม่มีเหตุการณ์ที่อาจส่งผลกับตลาดเกิดขึ้น นั่นอาจจะเป็นสัญญาณอีกอย่างซึ่งบอกว่าได้มีการดำเนินการของนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดเกิดขึ้นแล้ว

ดังนั้นแล้วเราจึงต้องจับตาดูการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตลาดจากการดำเนินการของนักลงทุนรายใหญ่หรือ “วาฬ” เหล่านี้กันต่อไปเนื่องจากในปัจจุบันนี้เหล่านักลงทุนสถาบันต่างเข้าสูงตลาดคริปโตกันมากขึ้นเรื่อยๆนั่นเอง ซึ่งการดำเนินการของบุคคลเหล่านี้อาจส่งผลกระทบต่อมูลค่าของสินทรัพย์ที่เราถืออยู่ได้นั่นเอง

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น