เราทราบกันดีว่าราคาของ Bitcoin นั้นล้วนแต่มาจากการเก็งกำไรในตลาดทั้งสิ้น ซึ่งตอนนี้เหตุการณ์ Halving กำลังใกล้เข้ามาแล้วและนักวิเคราะห์หลายคนก็เริ่มตื่นตัวกันมากขึ้น
ในขณะที่คนส่วนใหญ่เชื่อว่าราคา Bitcoin จะพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงหลังจากช่วงเหตุการณ์ Halving ของ Bitcoin แต่ขณะเดียวกันก็มีบางคนที่ไม่เชื่อเช่นนั้น โดยบางคนเชื่อว่าเหตุการณ์การ Halving ของ Bitcoin กับช่วงวิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่านั้นจะทำให้เกิดการแข่งขันครั้งใหญ่ในหมู่นักขุด ซึ่งอาจส่งผลกระทบที่ร้ายแรงต่อราคาของ BTC ได้ในอนาคต
สงครามของเหล่านักขุด
เหตุการณ์ Halving ของ Bitcoin กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้และมันเป็นเหตุการณ์ที่หลายคนเชื่อกันว่าจะทำให้ราคาพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง เนื่องจากอุปทานของ Bitcoin จะถูกหั่นลงครึ่งหนึ่งนั่นเอง
อย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่คิดเช่นนั้น โดยเมื่อเร็ว ๆ นี้นักวิเคราะห์ชื่อดังจากทวิตเตอร์ Steve North เขาได้ตั้งข้อสังเกตว่า :
ราคาของ Bitcoin นั้นอาจลดลงมาอยู่ที่ช่วงระหว่าง $ 2,000- $ 2,200 ในเดือนพฤษภาคมถึงมิถุนายน ซึ่งเหตุผลหลักของการร่วงในครั้งนี้ก็คือความจริงที่ว่ามีเหมืองขุดต้องการ “ผูกขาดอุตสาหกรรมนี้”
ราคานี้จะเป็นระดับราคาที่ต่ำกว่าจุดคุ้มทุนของเหมืองขุด Bitcoin ในประเทศจีน อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่าในทางทฤษฎีแล้วอาจมีบริษัทบางแห่งที่ยอมดำเนินการขุดแบบขาดทุนต่อไปเพื่อเข้าควบคุมตลาดอย่างสมบูรณ์ในอนาคต
“นี่จะเป็นช่วงที่นักลงทุนเริ่มผันตัวออกจากตลาด Bitcoin เนื่องจากเหล่านักขุดจะไม่ช่วยพวกเขาในครั้งนี้” กล่าวโดยนักวิเคราะห์ Steve North
ประวัติศาสตร์ไม่ซ้ำรอยเดิม
เราควรต้องเผื่อใจเอาไว้ด้วยว่า ประวัติศาสตร์นั้นอาจจะไม่เดินซ้ำรอยเดิมเหมือนกับในอดีตที่ผ่านมา เนื่องจากเหตุการณ์ในปัจจุบันนั้นเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนและมีอะไรที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงอนาคตได้อยู่เสมอ
แม้ว่าเหตุการณ์ Halving ของ Bitcoin ครั้งแรกในปี 2012 จะทำให้มูลค่าของเพิ่มขึ้นมากกว่า 10 เท่าในปีต่อมาและ Halving ครั้งที่สองในปี 2016 มูลค่าของมันพุ่งขึ้นแตะสูงสุดตลอดกาลในปี 2017 แต่ถึงกระนั้นนาย Meltem Demirors CSO ของ CoinShares ก็ยังคงเชื่อว่าเหตุการณ์ Halving ของ Bitcoin ในปีนี้จะไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อราคา เนื่องจากการซื้อขายส่วนใหญ่นั้นเกิดขึ้นผ่านเว็ปเทรดแบบฟิวเจอร์
ที่มา : cryptopotato
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น