กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ชี้ว่าตอนนี้เกิดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนการล็อคดาวน์ของแต่ละพื้นที่จะเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ ก่อนที่เหตุการณ์จะดีขึ้น Bitcoin (BTC) ซึ่งมีความสัมพันธ์กับกับตลาดหุ้นจะต้องแยกตัวออกจาก S&P 500 ให้ได้เพื่อที่จะมุ่งหน้าสู่ขาขึ้นอีกครั้ง
เศรษฐกิจเริ่มถดถอย
ในวันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา IMF ได้เผยแพร่รายงาน World Economic Outlook ประจำไตรมาสโดยได้อธิบายว่าการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้เกิดการล็อคดาวน์ในพื้นที่ต่างๆ มากมาย เศรษฐกิจจึงตกต่ำมากที่สุดในรอบ 90 ปี นอกจากนี้ IMF ยังคาดการณ์ว่าภายในปี 2022 จะมีความสูญเสียอีกมูลค่ากว่า 9 ล้านล้านดอลลาร์
ทั้งนี้จากรายงานเผยว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจนั้นลดลง 6.3% นับแต่เดือนมกราคม คาดว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยปีต่อปีที่อยู่ที่ 3% เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจในกว่า 170 ประเทศทั่วโลกนั้นลดลง
ผู้อำนวยการการวิจัยกองทุนการเงินระหว่างประเทศนาย Gita Gopinath กล่าวว่าการคาดการณ์ดังกล่าวนั้นเป็นข้อสันนิษฐานโดยดูจากยอดการระบาดและการกักตัวเองของแต่ละพื้นที่
“โรคระบาดครั้งนี้ทำให้เกิดการล็อคดาวน์ครั้งใหญ่ส่งผลให้เกิดเศรษฐกิจถดถอยนับตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่และเลวร้ายยิ่งกว่าวิกฤตการเงินโลก” เขากล่าว
วิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2008 ทำให้อัตราการเติบโตทั่วโลกหดตัว 0.1% ในช่วง 12 เดือนแรก อย่างไรก็ตามวิกฤติปัจจุบันนี้ส่งผลกระทบต่อจีนและอินเดีย แต่ IMF กลับมองว่าในปี 2021 เศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวทั่วโลกประมาณ 5.6%
IMF คาดว่าสถานการณ์นี้ส่งผลลบต่อ Bitcoin
รายงานจาก IMF มองว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลลบต่อตลาด Bitcoin และคริปโตเคอร์เรนซี อ้างอิงจากรายงานของ Coinmetrics ชี้ว่าช่วงกลางเดือนมีนาคมตลาดนั้นอยู่ในช่วงวิกฤต ราคา Bitcoin นั้นวิ่งตามตลาดหุ้นและดูเหมือนจะกลับสู่ภาวะปกติในช่วงปลายเดือนมีนาคม แต่ต้นเดือนเมษายนได้เห็นทั้งตลาดหุ้นและตลาด Bitcoin ก็เริ่มเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกันอีกครั้ง
ทองคำและ Bitcoin มีการเคลื่อนที่สัมพันธ์กัน
วิกฤตสภาพคล่องครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะส่งผลต่อสินทรัพย์ส่วนใหญ่ในตลาดโดยจากกราฟชี้ให้เห็นว่ามีความสัมพันธ์ระหว่าง S&P 500 และทองคำแตะระดับสูงสุดในรอบครึ่งทศวรรษรวมถึงความสัมพันธ์ของตลาด Bitcoin และทองคำเริ่มมีมากขึ้น
หากเป็นเช่นนี้ต่อไปราคา Bitcoi อาจจะต้องอ้างอิงตามตลาดหุ้นหรือตลาดทองคำ อย่างไรก็ตามด้าน Coinmetrics กลับมองว่าในระยะยาวความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin และตลาดหุ้นจะเริ่มลดน้อยลง
ที่มา : cointelegraph
กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น