ดูเหมือนว่าเทรนด์การค้ายาผ่านดาร์คเว็บนั้นจะยังคงมีมาให้เห็นเรื่อย ๆ ทั่วโลกตามสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ทว่าล่าสุดนั้นเหตุการณ์ดังกล่าวดูเหมือนว่าจะเกิดขึ้นในประเทศไทยเรานี้เอง โดยมีรายงานว่าเด็กไทยอายุเพียงแค่ 18 ปีนั้นได้ขายยาเสพติดที่ซื้อมาเองผ่านดาร์คเว็บด้วย Bitcoin และนำมาสร้างแบรนด์ของตนเอง ก่อนที่จะขายต่อให้กับลูกค้าในไทย
โดยอ้างอิงจากโพสต์ของ Tempo Old journalists นั้นได้มีการรายงานเมื่อหลายชั่วโมงที่ผ่านมาว่าผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวที่ไม่มีการเปิดเผยชื่อ อายุ 18 ปีนั้นได้ถูกจับกุมโดยพล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ โดยรายงานเผยว่ามีการยึดยาบ้ากว่า 1.2 ล้านเม็ด ไอซ์ 130 กิโลกรัม ยาอี 6,000 เม็ด เเละกัญชา 200 กิโลกรัม ซึ่งรวมของกลางและทรัพย์สินที่ยึดได้นั้นมีมูลค่ามากกว่า 180 ล้านบาท
รายงานดังกล่าวยังเผยว่าผู้ต้องหานั้นได้ทำการค้ายามาตั้งแต่อายุ 14 ปี และได้ทำการสร้างฐานลูกค้ามาเรือย ๆ เป็นระยะเวลาถึง 4 ปี นอกจากนี้เขายังใช้ Bitcoin เพื่อซื้อยาจากเว็บค้ายาเสพติดจากเนเธอร์แลนด์ เพื่อให้ไปส่งที่คอนโดฯที่เช้าไว้ทั้งหมด 2 จุด เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกจับได้ แต่ดูเหมือนว่าจะมาพลาดท่าในตอนหลัง
สำหรับยาเสพติดที่ซื้อมาได้นั้นจะถูกนำไปขายให้กับลูกค้าที่อยู่ตามสถานบันเทิงต่าง ๆ ผ่านลูกน้องที่จ้างมา 3-4 คน แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยว่ามีสถานบันเทิงที่ใดบ้าง
ที่น่าสนใจคือ พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. ออกมาเผยว่าการใช้ Bitcoin เพื่อการซื้อขายยาเสพติดในปัจจุบันนั้นยัง “ไม่เป็นที่นิยม” ใน “ประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน” ซึ่งหากอ้างอิงจาก พล.ต.ท.ชินภัทร แล้วนั้นนั่นหมายความว่า Bitcoin นั้นยังไม่เป็นที่แพร่หลายในกลุ่มพ่อค้ายาในไทย, พม่า, กัมพูชา และประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั่นเอง
อย่างไรก็ตาม รายงานนั้นไม่ได้เผยว่าทางตำรวจได้ทำการยึดของกลางที่เป็น Bitcoin หรือสกุลเงินดิจิทัลที่เกี่ยวข้องไปได้ด้วยหรือไม่ อย่างไร
ก่อนหน้านี้เราได้เห็นการจับกุมนาย Ross Ulbricht หรือเจ้าของเว็บค้ายาระดับโลก Silk Road ที่รับ Bitcoin เป็นช่องทางชำระเงินมาแล้ว โดยก่อนหน้านั้นเว็บไซต์ดังกล่าวนั้นเปิดให้บริการอยู่บนดาร์คเว็บมาเป็นเวลานานถึง 3 ปี โดยหลังจากนั้นนาย Ulbricht ก็ถูกตัดสินจำคุกตลอดชีวิต และค้านการประกันตัวอีกด้วย นอกจากนี้ทรัพย์สินจากการค้ายาของเขามูลค่ารวมกว่า 180 ล้านดอลลาร์ก็ถูกยึดไปเป็นที่เรียบร้อย
ขอบคุณภาพจาก Tempo Old journalists