<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

อดีตผู้บริหาร Ripple ชี้ธนาคารจำเป็นต้องใช้เหรียญ XRP แก้ปัญหาธุรกรรมล่าช้า

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ดูเหมือนว่าความล่าช้าล่าสุดสำหรับการยุติกระบวนการชำระเงินที่นำเสนอโดยธนาคารระหว่างประเทศนั่นจะเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ให้เห็นแล้วว่าสถาบันการเงินแบบดั้งเดิมจำเป็นต้องนำเทคโนโลยีของ Ripple มาใช้อย่างจริงจังและสิ่งนี้อาจนำไปสู่การยอมรับของ XRP

การนำเสนอครั้งแรกเริ่มต้นขึ้นในปี 2015 โดยธนาคารสวิส UBS Group AG และบริษัทวิจัยและพัฒนาบล็อกเชนในกรุงลอนดอน Clearmatics ซึ่งเดิมทีเรียกว่าโครงการ “Utility Settlement Coin” ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อจัดหาสกุลเงินหลักในรูปแบบดิจิทัลที่ได้รับการสนับสนุนจากภาคธนาคาร

เมื่อปีที่แล้วพันธมิตรของโครงการและผู้ถือหุ้นผู้ก่อตั้งรวมถึง บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการธนาคาร Banco Santander และ Credit Suisse ได้ก่อตั้งบริษัท Fnality International เพื่อเป็นหัวหอกในการริเริ่มโครงการนี้

โครงการดังกล่าวกำหนดเป้าหมายที่จะเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลในปี 2020 นี้ แต่อย่างไรตามเจ้าหน้าที่ของ Fnality International กล่าวว่าขณะนี้ยังคงรอการอนุมัติด้านกฎระเบียบและหวังว่าจะได้รับไฟเขียวในช่วงไตรมาสแรกของปี 2021

นาย Cory Johnson อดีตหัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ด้านการตลาดของ Ripple กล่าวว่าความล่าช้าในครั้งนี้เป็นหลักฐานที่บ่งชี้ให้เห็นว่าธนาคารต้องการเทคโนโลยีบล็อกเชนอย่างจริงจังเช่น ผลิตภัณฑ์การชำระเงินข้ามพรมแดน On-Demand Liquidity (ODL) ของ Ripple เพื่อใช้ประโยชน์จากเว็ปเทรดคริปโตและเหรียญ XRP

โดยเว็ปเทรดจะรับเงินสดไปนำไปแปลงเป็นเหรียญ XRP ในมูลค่าที่เท่า ๆ กัน เพื่อส่งข้ามพรมแดน จากนั้นก็จะทำการแปลงกลับไปเป็นสกุลเงินเฟียตอีกครั้ง การทำธุรกรรมสามารถดำเนินการได้ภายในไม่กี่วินาที ตราบเท่าที่มีสภาพคล่องของ XRP เพียงพอในตลาด ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาให้น้อยที่สุด

Ripple พยายามทำงานอย่างหนักเพื่อโน้มน้าวให้หน่วยงานกำกับดูแลใช้กฎระเบียบของสกุลเงินดิจิทัลที่สร้างสรรค์เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมที่เพิ่งเกิดใหม่ โดยเมื่อปีที่แล้วบริษัทได้ออกโฆษณาแบบเต็มหน้าในหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal เพื่อขอให้สภาคองเกรสตระหนักถึงความชอบธรรมของเทคโนโลยีบล็อกเชนและเทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทแบบกระจาย

ที่มา : dailyhodl