หลังจากที่ราคา Bitcoin ได้ทุบสถิติ ATH เดิมในประวัติศาสตร์ของตัวเองเมื่อวานนี้ ทำให้เหล่านักลงทุนเกิดอาการกลัวตกรถขึ้นมาทันที
โดยการทุบสถิติจุดสูงสุดเดิมในประวัติศาสตร์ของราคา Bitcoin ทำให้ทุกคนต่างจับจ้อง Bitcoin กันอย่างไม่ละสายตา โดยสำนักข่าว คนดังในวงการคริปโตจนไปถึงกองทุนนั้นต่างออกมาให้ความเห็นและรอโอกาสที่จะเข้าไปถือครองกันอย่างใจจดใจจ่อ
หลังจากที่ราคาของ Bitcoin ได้ผ่านสภาพตลาด Bear Market (สภาพตลาดที่ราคาลดลงอย่างรุนแรง) เมื่อปี 2018 ไปแล้ว ในที่สุดตอนนี้ราคา Bitcoin ก็มาถึงสภาพตลาด Bull Market (สภาพตลาดที่ราคาเพิ่มขึ้นอย่างรุนแรง)
โดยมูลค่าของ Bitcoin ได้เพิ่มขึ้นมาถึง $10,000 ต่อ 1 BTC ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาและล่าสุดในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนก็มีมูลค่าเกือบ $20,000 ต่อ 1 BTC ซึ่งระหว่างนั้นก็ได้ทำสถิติใหม่ที่ราคาพุ่งขึ้นติดต่อกันยาวถึง 13 วันไว้ด้วย
ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้อาการกลัวตกรถเริ่มกลับมาในหมู่นักลงทุนคริปโต ส่งผลให้มีแรงซื้อเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และก่อให้เกิด Extreme Overbought Conditions หรือแรงซื้อที่เพิ่มมากเกินไปอย่างอย่างรุนแรง อ้างอิงจากดัชนี RSI
จากสถิติดัชนี RSI ระบุว่าหากเกิดเหตุการณ์ Extreme Overbought Conditions แล้วจะส่งผลให้ราคาเข้าสู่กระบวนการปรับฐานราคา ซึ่งในช่วง 3 วันที่ผ่านมาดัชนี RSI ได้บ่งชี้ว่าเกิดการ Overbought ขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภายหลังได้ส่งผลให้เกิดการปรับฐานราคาขึ้นในช่วงค่ำที่ผ่านมา
เมื่อครั้งที่ดัชนี RSI ได้พุ่งสูงเกิดเป็น Extreme Overbought ในปี 2017 ส่งผลทำให้ราคาร่วงลงกว่า 70% และราคา Bitcoin เข้าสู่สภาวะตลาด Bear Market ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากราคาพุ่งขึ้นเป็นระยะเวลากว่า 5 สัปดาห์ในช่วงเดือนพฤษภาคมปี 2019 ก่อนจะร่วงลงและเข้าสู่สภาวะตลาด Bear Market ในภายหลัง โดยราคาได้เพิ่มขึ้นสูงถึง 66% ก่อนจะตกลงกลับมา 46%
จากการคาดการณ์นั้น เป็นไปได้ว่าอาจเกิดเหตุการณ์ขึ้นได้ถึง 2 รูปแบบ
โดยอาจเป็นการปรับฐานราคาครั้งรุนแรงซึ่งมีโอกาสร่วงลงไปถึง $8,000 ต่อ 1 BTC แต่ในอีกแง่หนึ่งก็เป็นไปได้เช่นเดียวกันที่จะราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึง $31,000 ต่อ 1 BTC และร่วงลงกว่า 58% ในภายหลัง
จากดัชนี RSI ในกราฟราย 3 วัน ทำให้คาดการณ์กันว่าแม้จะมีการปรับฐานราคาเกิดขึ้นจริง และอาจส่งผลให้มูลค่าทางตลาดคริปโตโดยรวมลดลงไปถึง 40% แต่ก็จะไม่เลวร้ายเท่าการปรับฐานราคาในรูปแบบของ Bear Market ถ้าหากสภาพตลาดในช่วงนี้ยังอยู่ในรูปแบบของ Bull Market
โดยเฉลี่ยแล้วการปรับฐานราคามักจะทำให้ราคาตกลงไปประมาณ 37% หากอ้างอิงจากการปรับฐานราคาที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ซึ่งการอ้างอิงจากข้อมูลเดิมนั้น มันค่อนข้างเป็นที่แน่ชัดว่า ทุกครั้งที่ดัชนี RSI แสดงให้เห็นว่ากำลังมีการ Overbought เกิดขึ้น มักจะมีการปรับฐานเกิดขึ้นตามมาเสมอ ซึ่งครั้งนี้ก็เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบตลาดแบบ Bull Market หรือไม่ แต่ที่แน่ ๆ ตอนนี้กำลังเข้าสู่การปรับฐานราคา
แต่คำถามที่สำคัญคือหลังเกิดการปรับฐานราคาแล้ว ณ ตอนนี้ตลาดแบบ Bull Market จะยังดำเนินต่อไปแล้วส่งผลให้ราคา Bitcoin พุ่งสูงขึ้นไปถึง $31,000 ต่อ 1 BTC หรือหาก Bull Market สิ้นสุดลงก็อาจทำให้การปรับฐานราคาครั้งนี้ส่งผลให้ราคาตกลงไปกว่า 50% ก็เป็นไปได้เช่นกัน
ที่มา: newsbtc