กรมสรรพสามิตกำลังวางแผนที่จะใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อเซ็ตระบบการจัดเก็บภาษีให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นแทนที่จะเล็งเก็บภาษีจากผู้บริโภคเพิ่มเติม อ้างอิงตามรายงานของ Bangkok Post เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
อย่างที่เราทราบกันดีกรมสรรพสามิตนั้นเป็นส่วนหนึ่งของกระทรวงการคลังซึ่งมีหน้าที่จัดเก็บภาษีที่เกิดจากการขายสินค้า, การผลิตสินค้าและการส่งออกสินค้า
สำหรับปีงบประมาณ 2021 กรมสรรพสามิตได้ตั้งเป้าหมายในการจัดเก็บภาษีอยู่ที่ 530 พันล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับ 548 พันล้านบาทของรายได้ภาษีที่จัดเก็บได้ในปีงบประมาณของปีนี้
กรมสรรพสามิตกล่าวว่า การนำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาช่วยนั้นทำให้การหลีกเลี่ยงภาษีนั้นทำได้ยากมากขึ้น เนื่องจากกรมสรรพสามิตรวมถึงกรมสรรพากรและกรมศุลกากรจะแชร์ฐานข้อมูลเดียวกันเพื่อดำเนินการตรวจสอบภาษี
กรมสรรพสามิตได้เริ่มวางแผนการใช้งานไปตั้งแต่เมื่อปีที่แล้วเพื่อสร้างระบบเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ใช้สำหรับนโยบายคืนภาษีที่จ่ายเกินของผู้ส่งออกน้ำมัน เนื่องจากระบบเก่านั้นผู้ส่งออกน้ำมันยังคงต้องยื่นเอกสารเพื่อขอยกเว้นภาษีทำให้การตรวจสอบนั้นไม่มีความละเอียดมากพอ แต่การนำ Blockchain เข้ามาช่วยนั้นจะทำให้ระบบสั่งจ่ายเงินมีประสิทธิภาพมากดียิ่งขึ้น
ส่วนเหตุผลหลัก ๆ ที่กรมสรรพสามิตต้องใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในการส่งออกน้ำมัน ก่อนสินค้าอื่น ๆ ก็เพราะว่าพวกเขาต้องการสร้างรายได้มากกว่า 2 แสนล้านบาทต่อปี ซึ่งคิดเป็น 2 ใน 3 ของการจัดเก็บรายได้ทั้งหมดของกรมสรรพสามิต