ราคาของ Ethereum นั้นได้เพิ่มขึ้นมาราว ๆ 88% หากนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ทำให้นักเทรดคริปโตหลายคนต้องได้ตื่นตาตื่นใจอีกครั้ง เมื่อราคาของมันได้พุ่งแตะจุดสูงสุดที่ 750 ดอลลาร์
นอกเหนือจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ETH Futures ของ CME ที่จะมีขึ้นในวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้แล้ว ดูเหมือนว่าเหตุการณ์การเติบโตของตลาด DeFi ในแง่ของจำนวนเงินที่ถูกนำไปล็อคไว้ในระบบ (TVL) ก็พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงอีกด้วยเช่นกัน
โดยหากดูจากข้อมูลด้านบนแล้ว นักเทรด Ethereum อาจจะรู้สึกมั่นใจได้ว่า Eth2 นั้นดูเหมือนจะประสบความสำเร็จอย่างมาก แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีปัญหาโรคเลื่อนมาเป็นเวลาหลายเดือนก็ตาม
อีกหนึ่งตัวแปรที่บ่งบอกว่ามันมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นอย่างรุนแรงนั้นก็คือเหรียญ Ethereum ที่นักขุดถืออยู่นั้นได้ร่วงลงจุดต่ำสุดในรอบ 2 ปี ซึ่งเป็นที่คาดการณ์ว่าพวกเขาได้เทขายมันไปแล้ว และสิ่งนี้อาจส่งผลทำให้มีขาขึ้นรอบใหม่เกิดขึ้นนั่นเอง
หากลองดูจากในช่วงสามเดือนที่ผ่านมาจะพบว่าอัตรา open interest ของเหรียญ Ether นั้นก็ได้เพิ่มสูงขึ้นราว ๆ 150% โดยขึ้นไปอยู่ที่ 880 ล้านดอลลาร์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวนี้ส่งผลทำให้ราคาของ ETH พุ่งทะลุระดับ 700 ดอลลาร์ และทำจุดสูงสุดเป็นประวัติกาลหากนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2018 ที่ผ่านมา
อัตราส่วน put-call กำลังส่อแววขาขึ้น
หากลองตรวจดูอัตราการเปิด call (ซื้อ) และ put (ขาย) นั้นจะสังเกตเห็นอารมณ์โดยรวมของตลาดได้ โดยปกติแล้ว call options นั้นจะถูกใช้เพื่อลงทุนในตลาดขาขึ้น ส่วน put options นั้นจะเป็นกลยุทธ์ที่ใช้ทำกำไรในตลาดขาลง
แม้ว่าตลาดนั้นจะกลายเป็นขาขึ้นอย่างรุนแรงจากในช่วงที่ผ่านมา แต่อัตรา put/call นั้นก็ได้ลดลงอย่างมาก ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวนี้บ่งบอกว่าโวลุมการซื้อขายของ call options นั้นมีมากกว่าฝั่งตรงข้าม แต่นักเทรดก็ควรที่จะระวังก็ต่อเมื่อเจ้ามือเริ่มที่จะมีการ take profit โดยเมื่อนั้นอาจเป็นช่วงที่ตลาดอาจกลับตัวกลายเป็นขาลง
ค่าอัตราส่วนในปัจจุบันนั้นดูเหมือนว่าจะขัดแย้งกับของที่ระดับเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว โดยในตอนนั้นตัวเลขยังอยู่ที่ราว ๆ 0.94 ดอลลาร์ โดยบ่งบอกว่าอัตรา put options นั้นมีความสมดุลมากกว่าในตอนนี้
ข้อมูลจากตลาด Options เผยให้เห็นว่านักเทรดในตลาดคาดหวังราคา ETH ที่ $880
ตัวเลขโอกาสในการเป็นขาขึ้นของตลาดนั้นสามารถที่จะถูกคำนวณได้ด้วยโมเดล Black & Scholes โดยเว็บกระดานเทรด Derebit ได้นำเสนอข้อมูลนี้ในรูปแบบสามเหลี่ยม โดยหากจะให้กล่าวง่าย ๆ แล้วนั้น โอกาสของมันคิดเป็นเปอร์เซนต์ต่อ strike
โดยอ้างอิงจากข้อมูลด้านบนนั้น จะพบว่าการ strike ที่ราคา 880 ดอลลาร์สำหรับของวันที่ 25 มกราคมนั้นมีโอกาสเกิดขึ้นที่ 34% ในขณะที่คนส่วนใหญ่ที่ซื้อขายที่ 960 ดอลลาร์นั้นมีโอกาสอยู่ที่ 25%
อย่างไรก็ตาม โมเดลดังกล่าวนั้นค่อนข้างมีความเซฟสูง ซึ่งหากลองดูการ strike ที่ราคา 720 ดอลลาร์นั้นจะมีโอกาสอยู่ที่ราว ๆ 59% เลยทีเดียว
วันหมดอายุสัญญาเดือนมีนาคมบ่งบอกว่าตลาดเป็นขาขึ้น
ตอนนี้เราเหลือเวลาอีกแค่ 86 วันก็จะเข้าเดือนมีนาคม 2021 และโอกาสที่ราคาของ ETH นั้นจะพุ่งแตะ 880 ดอลลาร์นั้นดูเหมือนว่าจะมีเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
โดยการ strike ที่ราคา 880 ดอลลาร์นั้นตอนนี้มีโอกาสที่ 49% แล้ว หากอ้างอิงจากโมเดล Black & Scholes ในขณะที่ราคาที่ 1,120 ดอลลาร์นั้นมีโอกาสอยู่ที่ 33%
โดยหากดูข้อมูลด้านบนนั้นจะเห็นว่าสัญญา options ของเดือนมีนาคม 2021 กำลังถูกเทรดอยู่ที่ราคา 114 ดอลลาร์ต่อสัญญา ข้อมูลดังกล่าวถือเป็นหลักฐานชั้นดีว่านักเทรดนั้นกำลังมองตลาดว่าเป็นขาขึ้นอย่างชัดเจน
ตลาดฟิวเจอร์สะท้อนความเป็นขาขึ้น
อีกหนึ่งตัวชี้วัดที่บ่งบอกได้ว่านักเทรดมืออาชีพกำลังแห่เข้ามาในตลาดนั้นก็คืออัตรา premium ในตลาดฟิวเจอร์นั่นเอง โดยสามารถวัดได้ระหว่างสัญญาตลาดฟิวเจอร์ระยะยาวและราคา ETH ในตลาด spot ในตอนนี้
กราฟด้านบนแสดงให้เห็นว่าตัวชี้วัดดังกล่าวได้พุ่งไปอยู่ที่ 5.8% ในวันที่ 19 ธันวาคมที่ผ่านมา และมันได้พุ่งไปแตะจุดดังกล่าวอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 28 ธันวาคมที่ผ่านมาตอนที่ราคาเหรียญ ETH ทำจุดสูงสุดในรอบหลายปี โดยอัตราพรีเมียมที่เหนือกว่าตลาด spot ที่ 3.5% ซึ่งบ่งบอกถึงความเป็นขาขึ้นของตลาด
ปัจจุบันเรทดังกล่าวนั้นอยู่ที่ 4.3% ซึ่งเท่ากับอัตรา premium ของทั้งปีที่ 18% และสูงกว่าระดับของหลายเดือนที่ผ่าน ๆ มาอีกด้วย ซึ่งสิ่งนี้บ่งบอกว่าแม้ว่าราคาของเหรียญดังกล่าวจะสวิงอยู่ที่ระดับ 750 ดอลลาร์ แต่นักเทรดมืออาชีพนั้นก็ยังมีความมั่นใจในอนาคตของ Tether
แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าตลาดนั้นอาจจะพุ่งไปทำจุดสูงสุดใหม่ได้ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไป