ช่วงค่ำคืนที่ผ่านมาราคา Bitcoin ได้ร่วงลงอย่างรุนแรง จากระดับราคา $37,800 มาอยู่ที่ระดับ $34,800 เพียงชั่วข้ามคืนที่ผ่านมา และยังทำให้สัญญา Futures สูญเงินไปกว่า 572 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ อีกด้วย
ทาง Cointelegraph ได้รวบรวม 3 สาเหตุหลัก ๆ ที่อาจทำให้ราคา Bitcoin ร่วงลงได้อย่างรุนแรงไว้ด้วยกัน
ตลาดอนุพันธ์มี Funding Rate ที่ต่ำอย่างต่อเนื่อง
ก่อนที่จะเกิดการร่วงลงของราคา Funding rate อยู่ที่เพียง 0.1% โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมาอัตรา funding rate อยู่ที่ระดับไม่เกิน 0.3% ส่งสัญญาณบ่งบอกว่าเกิดการ Overleveraged ขึ้นอย่างรุนแรง
หรือกล่าวได้ว่านอกจากตลาดจะมีโนวโน้มแบบ Sideway แล้ว ปริมาณนักลงทุนทั้งใน Short และ Long มีปริมาณมากเกินไปอีกด้วย ทำให้หากเกิดการเปลี่ยนแปลงของราคาที่รุนแรงขึ้น อาจส่งผลให้มีสัญญาซื้อขายสิ้นสภาพได้ในช่วงเวลาดังกล่าว
ความไม่แน่นอนของตลาดที่เพิ่มมากขึ้น
จากข้อมูลของนักวิจัยบริษัท Santiment ได้ระบุว่านักลงทุนยังมีความเคลือบแคลงใจว่าราคา Bitcoin จะสามารถไปถึงระดับ $40,000 ได้อีกรอบหรือไม่
ซึ่งแม้ว่าโครงสร้างพื้นฐานของ Bitcoin ต่าง ๆ จะได้มีการพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงกำลังการซื้อขายที่เพิ่มขึ้น แต่ความอ่อนไหวของตลาดนั้นกลับลดลงซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ราคา Bitcoin ไม่สามารถที่พุ่งทะลแนวต้าน $38,000 ได้
ความผันผวนขาขึ้นที่หายไป
ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา Bitcoin ประสบปัญหากำลังซื้อลดลงเมื่อเทียบกับในช่วงที่ราคาสามารถพุ่งขึ้นไปแตะรดับ $42,000 ในช่วงต้นเดือนมกราคม
ที่ผ่านมาทุกครั้งที่ราคาร่วงกลับลงมาที่ระดับ $35,000 ก็มักจะมีกำลังซื้อเกิดขึ้นอยู่เสมอ
แต่ช่วงกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนั้นพบว่ากำลังซื้อในช่วงแนวรับที่ $35,000 เริ่มอ่อนกำลังลง อาจบ่งบอกถึงความคาดหวังที่ราคาอาจพุ่งไปถึง $40,000 ในระยะสั้นได้ลดลงด้วย
ซึ่งกำลังขายส่วนมากนั้นมาจากภูมิภาคเอเซีย แต่หลังการร่วงลงของราคาเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาก็พบว่ากำลังซื้อในตลาดสหรัฐฯ นั้นก็กำลังลดลงด้วยเช่นกัน
ผลจากกำลังซื้อที่ลดลงกับโมเมนตัมขาขึ้นที่อ่อนแอลงน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้นักลงทุนเริ่มระมัดระวังการลงทุนในช่วงนี้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นไปได้ว่าการปรับฐานราคานี้จะยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์
ที่มา: Cointelegraph