ในที่สุด BitMEX ก็ได้บรรลุข้อตกลงกับ US Commodity Futures Trading Commission (CFTC) และ FinCEN โดยบริษัทยอมจ่ายเงินค่าปรับเป็นมูลค่า 100 ล้านดอลลาร์เพื่อยุติคดีนี้ ซึ่งถือเป็นการสิ้นสุดของคดีที่ยืดเยื้อมานาน ทั้งนี้เงินค่าปรับจะถูกแบ่งเท่า ๆ กันระหว่าง CFTC และ FinCEN
ข้อตกลงดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจาก BitMEX กำลังเปลี่ยนรูปแบบดำเนินการให้เป็นไปตามกฎระเบียบมากยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึงระบบการยืนยันตัวตน กระบวนการเชิงระบบแบบใหม่ และพนักงานชุดใหม่
ฝ่ายบริหารผู้ของ BitMEX รวมถึงนาย Arthur Hayes, Samuel Reed และ Ben Delo ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในข้อตกลงนี้ เห็นได้ชัดว่า Haye ได้รับการปล่อยตัวด้วยเงินประกันมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์และคดีนี้จะถูกพิจารณาคดีในปีหน้า
นาย Alexander Höptner CEO ของ BitMEX คนปัจจุบันได้พูดถึงการวิสัยทัศน์ในอนาคตของบริษัท โดยกล่าวว่า :
“วันนี้ถือเป็นวันสำคัญในประวัติศาสตร์ของบริษัท และเรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้นำสิ่งนี้มาสู่ทุกคน เมื่อ crypto เติบโตเต็มที่และก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ เราก็ได้พัฒนาเป็นแพลตฟอร์มอนุพันธ์ crypto ที่ใหญ่ที่สุด ด้วยฐานผู้ใช้ที่ได้รับการยืนยันตัวตนอย่างสมบูรณ์ การตรวจสอบผู้ใช้อย่างครอบคลุม การปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เข้มงวด และความสามารถในการป้องกันการฟอกเงินไม่ได้เป็นเพียงจุดเด่นของธุรกิจของเราเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวขับเคลื่อนความสำเร็จในระยะยาวของเราอีกด้วย”
BitMEX กำลังก้าวไปข้างหน้า
คดีของ BitMEX ถือเป็นหนึ่งในคดีที่มีคนพูดถึงมากที่สุดคดีหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามอดีตผู้บริหารของบริษัท รวมถึงนาย Hayes, Reed และ Delo ยังไม่ได้ข้อยุติในคดีการละเมิดพระราชบัญญัติความลับของธนาคาร ถึงกระนั้นบริษัทก็สามารถดำเนินการมุ่งเน้นไปธุรกิจรูปแบบใหม่ได้
ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวนั้นก็คือ การเป็น ‘มากกว่าอนุพันธ์’ ซึ่ง BitMEX ได้อ้างถึงในบล็อกโพสต์ โดยจะเพิ่มกลุ่มธุรกิจใหม่ทั้งหมด 5 กลุ่ม ได้แก่ สปอต, โบรคเกอร์, การดูแลรับฝากสินทรัพย์, ผลิตภัณฑ์ข้อมูล และสถาบันการศึกษา ที่ได้คัดเลือกสมาชิกใหม่ในทีมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ พร้อมกับปรึกษาหารือกับทางหน่วยงานกำกับดูแล