เป็นที่ทราบกันดีว่า Sushiswap และ Uniswap เป็น Dex ที่ใหญ่ที่สุดสองแห่งบน Ethereum แต่เนื่องจากปัญหาด้านความสามารถในการปรับขนาดของ Ethereum และค่าธรรมเนียม Gas ที่เพิ่มสูงขึ้น Dex ทั้งสองจึงได้ทำการสำรวจโซลูชัน Layer 2 เพื่อมองหาวิธีจัดการกับธุรกรรมจำนวนมาก
ในวันนี้ SushiSwap ได้เปิดเผยว่าเหตุผลใดว่า ทำไมพวกเขาจึงเลือกใช้ Arbitrum แทน Optimism เป็นโซลูชันการปรับขนาด Layer 2 สำหรับ Dex
ตามทวีตล่าสุด นาย Joseph Delong CTO ของ SushiSwap อ้างว่า Optimism นั้นได้ขัดขวางการเปิดตัว Layer 2 ของ SushiSwap และให้สิทธิพิเศษกับทาง Uniswap สามารถเปิดตัวได้ก่อน Joseph กล่าวว่า SushiSwap ได้มีการปรับใช้ Optimism บน Kovan testnet และอยู่ระหว่างการดีบั้คในขั้นตอนสุดท้าย แต่จู่ ๆ ก็ได้รับแจ้งว่า Uniswap จะได้รับโอกาสนี้แทน
“หลังจากการพูดคุยกันอย่างยาวนาน ในที่สุดเราก็ต้องถามประเด็นสำคัญว่า “เราจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันในการปรับใช้ Optimism หรือไม่” นั่นคือตอนที่ทีม Optimism บอกเราว่า Uniswap “จะต้องไปก่อน” นั้นหมายความว่าเราถูกคัดออกจากการใช้งานจนกว่า Uniswap จะได้ใช้มัน” Joseph กล่าว
ดังนั้น SushiSwap จึงตัดสินใจที่จะเปิดตัวใน Arbitrum แทน ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ “เป็นกลาง” มากกว่า ในขณะเดียวกัน Uniswap V3 ก็ได้ถูกนำไปใช้กับ Optimism Mainnet ในเดือนกรกฎาคม
Joseph มองว่า Optimism นั้นชอบ Uniswap มากกว่า SushiSwap เนื่องจากพวกเขาได้รับอิทธิพลจากนักลงทุน Andreesen Horowitz (a16z) และ Paradigm ทั้งสองกองทุนได้ลงทุนใน Uniswap และ Optimism รวมถึงโปรเจกต์ crypto ชั้นนำตัวอื่น ๆ Joseph คาดว่า VCs ทั้งสองอาจ “สมรู้ร่วมคิด” กันเพื่อสร้างผลประโยชน์ให้กับโครงการที่พวกเขาได้รับมอบหมาย
Joseph กล่าวเสริมว่าแม้นี่จะเป็นครั้งแรกที่ SushiSwap ได้รับการสนับสนุนโดย Paradigm และ a16z แต่ทว่าสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันนี้ก็เคยเกิดขึ้นกับโครงการอื่น ๆ มาก่อนแล้ว
“เหตุการณ์ทำนองนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วสองครั้ง ดังนั้นครั้งนี้เราจึงจะยืนหยัดต่อสู้ เราไม่เห็นด้วยกับ Paradigm และ a16z ที่สมรู้ร่วมคิดกับโปรเจ็กต์ของพวกเขาเพื่อรับสิทธิพิเศษ เราเลือกที่จะพูดเกี่ยวกับ Optimism เพื่อเปิดโปงพฤติกรรมการสมรู้ร่วมคิดในพื้นที่ DeFi ของพวกเขา”
ก่อนหน้านี้ a16z ถูกกล่าวหาว่าใช้ประโยชน์จากอิทธิพลของตนในชุมชน DeFi เมื่อถูกกล่าวหาว่ามอบโทเค็นของ UNI เพื่อลงคะแนนโหวตให้กับกลุ่มล็อบบี้ของ Uniswap ที่เรียกตัวเองว่ากองทุน DeFi Education Fund ต่อมาถูกวิพากษ์วิจารณ์โดยชุมชน DEFI หลังจากที่พวกเขาได้ขายเหรียญครึ่งหนึ่งของ Uniswap เพื่อแลกกับเงินมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์
ที่มา : ลิงก์