<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

“การรองรับการใช้งาน Bitcoin Cash นั้นไม่ง่าย” กล่าวโดย Trezor

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

บริษัทผู้ให้บริการกระเป๋า Bitcoin แบบ Hardware ที่ใหญ่ที่สุดนามว่า Trezor ที่ก่อนหน้านี้มีการสัญญาว่าจะทำให้กระเป๋าของพวกเขารองรับการใช้งานเหรียญ Bitcoin Cash (BCH) หรือ cryptocurrency ที่ hard fork แยกตัวเองมาจาก Blockchain ของ Bitcoin ที่แท้จริง ได้กล่าวว่าการรองรับเจ้าเหรียญเกิดใหม่ตัวนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

การ hard fork ของเหรียญ BCH เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม นั้นได้ส่งผลให้ผู้ประกอบการเกี่ยวกับ Bitcoin หลายๆเจ้าต่างก็ต้องพบกับปัญหาความยุ่งยากมากมาย ซึ่งหนึ่งในคำถามข้อสำคัญก็คือ “พวกเขาควรจะรองรับ Bitcoin Cash ไหม?”

มีผู้ให้บริการหลายๆผู้ให้บริการออกมาแสดงจุดยืนว่าพวกเขาจะไม่สนับสนุน Bitcoin Cash อีกทั้งยังแจ้งเตือนให้ผู้ใช้งานของพวกเขาทราบว่าถ้าอยากจะได้ BCH นั้น ก็ให้ถอน Bitcoin ของไปเข้ากระเป๋าของตัวเอง

แม้ว่า Bitcoin Cash นั้นจะเป็นผลพวงมาจากการแยกตัวของ Blockchain และหลายๆคนมีความไม่มั่นใจในตัวมัน (บางคนถึงกับมองว่ามันเป็น Bitcoin ปลอม) แต่ Trezor ก็ออกมาประกาศว่าพวกเขาจะทำให้ระบบกระเป๋าเหรียญ cryptocurrency ของพวกเขารองรับ Bitcoin Cash

ผู้ใช้งานที่ต้องการจะนำเอา BCH ของพวกเขาออกมาจาก Trezor นั้นจะต้องทำตามไกด์ที่ทาง Trezor แนะนำไว้บนเว็บของพวกเขา แทนที่จะใช้ระบบของกระเป๋า Trezor โดยตรง

ปัญหาเกิดขึ้น

การรองรับ Bitcoin Cash ของ Trezor นั้นถูกทำให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์ ทว่าทางนักพัฒนานั้นก็ได้ออกมาบ่นว่ามันเป็นอะไรที่เจ็บปวดมาก แต่การพัฒนาเฟิร์มแวร์ของการรองรับ BCH นั้นผ่านฉลุย

อย่างไรก็ตาม การติดตั้งระบบของ BCH ลงไปใน Bitcore (ส่วน backend ของเหรียญคริปโตทุกตัวที่ถูกรองรับโดยกระเป๋า Trezor) นั้นมีปัญหาอยู่เล็กน้อย

Bitcoin ABC ที่เป็น full node ของระบบมาตรฐานของ Bitcoin Cash นั้นถูกแก้ไขเปลี่ยนทั้งโคดและสไตล์ ซึ่งทำให้การเปรียบเทียบโคดในการติดตั้งบน Trezor สำหรับนักพัฒนานั้นต้องกินเวลาอย่างมาก

ซึ่งบั๊กที่เกิดขึ้นนั้นส่งผลให้ธุรกรรมหายไปอย่างไร้ร่องรอย และจำนวนเงินที่เหลืออยู่บนกระเป๋ากลายเป็นติดลบ ส่งผลต้องทำให้ปิดระบบ backend และเขียนโคดใหม่

[rsnippet id=”1″ name=”AdSense In-article ad 1″]

กระเป๋าคริปโตแบบเก็บได้หลายเหรียญ

การเพิ่มขึ้นของเหรียญ cryptocurrency ในแต่ละวันส่งผลทำให้ดีมานด์ความต้องการในกระเป๋าสำหรับเก็บมันเพิ่มขึ้นตามเช่นกัน

บางครั้งก็จะมี malware ที่มาจากไหนก็ไม่รู้แฝงมาอยู่บนคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานเหรียญคริปโตทำให้พวกเขาต้องสูญเสียเหรียญที่เก็บบนคอมพิวเตอร์ไปหมดสิ้น ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่หลีกเลี่ยง malware ด้วยการเก็บเหรียญของพวกเขาไว้บนเว็บกระเป๋าแบบออนไลน์ หรือบนเว็บเทรด

แต่ทว่าวิธีการดังกล่าวก็ยังคงมีความเสี่ยง โดยเฉพาะเวลาที่เว็บเทรดนั้นถูกแฮคหรือต้องปิดตัวลง

ดังนั้นกระเป๋าเก็บเหรียญคริปโตที่มีความสามารถเก็บเหรียญได้หลายๆเหรียญนั้นอาจถือเป็นความฝันของผู้ใช้งานหลายๆคน ไม่ว่าจะทั้งความสะดวก และความปลอดภัยที่มาอยู่บนแพคเกจเดียวกัน

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น