<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

“Bitcoin ได้รับการหนุนจากพวกผู้นำเผด็จการ” นาย George Soros กล่าว

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

George Soros นักเทรดระดับตำนานและประธานบริษัท Soros Fund Management ได้กล่าวบรรยายในงาน World Economic Forum ประจำปีที่จัดขึ้นในเมืองเดวอสประเทศสวิสเซอร์แลนด์ โดยหลังการบรรยายเสร็จสิ้น มีผู้ชมได้ถามถึงความคิดที่เขามีต่อ Cryptocurrency รวมถึงสกุลเงิน Bitcoin

Bitcoin คือฟองสบู่ที่พวกเผด็จการหนุนหลัง

พิธีกรในงานได้อ่านคำถามของผู้ชมให้นาย Soros ฟัง ซึ่งมีใจความว่า ‘คุณคือนักเก็งกำไรสกุลเงิน คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับ Cryptocurrencies? Bitcoin คือฟองสบู่ไหม และคุณมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับ Cryptocurrencies บ้างหรือไม่?’

นาย Soros ยิ้มและตอบว่า “Cryptocurrency ถือเป็นการตั้งชื่อที่ไม่เหมาะสม เพราะมันเป็นเพียงฟองสบู่ธรรมดา ๆ ที่มักเกิดขึ้นจากความเข้าใจผิดบางอย่างเท่านั้น”

เขากล่าวต่อว่า “Bitcoin นั้นไม่ใช่สกุลเงิน สกุลเงินที่แท้จริงต้องเป็นตัวเก็บรักษามูลค่าที่มีความเสถียร สกุลเงินที่สามารถผันผวนขึ้นลงถึง 25% ภายในหนึ่งวันนั้นไม่สามารถที่จะนำมาใช้ได้จริง ยกตัวอย่างเช่น การนำมาจ่ายค่าจ้าง เพราะว่าค่าจ้างที่จ่ายด้วยสกุลเงินนี้อาจลดมูลค่าลงถึง 25% ในวันต่อมา ดังนั้นมันคือการเก็งกำไรบนความเข้าใจผิด”

การใช้ Bitcoin ในการเลี่ยงภาษี

“ส่วน Blockchain นั้นเป็นระบบเทคโนโลยีที่มีความเป็นนวัตกรรมอย่างมาก มันสามารถถูกนำมาใช้เพื่อทั้งสิ่งดีและสิ่งไม่ดี” นาย Soros กล่าวต่อภายหลัง

“ในขณะนี้ Bitcoin ถูกใช้เพื่อการเลี่ยงภาษีซะส่วนมาก และพวกผู้นำในประเทศระบอบเผด็จการก็ใช้มันเพื่อที่จะซ่อนเงินนอกประเทศ เมื่อกี้นี้ ได้มีการประชุมซึ่งแทนที่จะมีการพูดคุยเกี่ยวกับสภาพชีวิตในประเทศรัสเซีย พวกเขากลับเอาแต่คุยเรื่อง Bitcoin เพราะนั่นคือสิ่งที่พวกผู้นำให้ความสนใจ” นาย Soros ได้อธิบาย “ซึ่งนี่จะส่งผลกระทบต่อการประเมินราคาของ Bitcoin โดยปกติเมื่อราคาขึ้นแบบเส้นพาราโบลานั้น ต่อมามันก็จะร่วงลงทีเดียวในทันที แต่สำหรับกรณี Bitcoin นี้ ผมคิดว่า ถ้าพวกเผด็จการยังคงมีอำนาจอยู่ต่อไปเรื่อยๆ มันอาจจะลงเอยไม่เหมือนกับฟองสบู่อื่นๆ ในอดีต เพราะผู้นำในประเทศเหล่านั้นจะใช้ Bitcoin ทำการซ่อนเงินนอกประเทศ “

ยังไม่มีผู้ใดทราบว่า ‘ประเทศเผด็จการ’ ที่เขาพูดถึงอยู่นี้คือประเทศแห่งใด แต่ก็มีการสันนิษฐานว่าเป็นเกาหลีเหนือ เวเนซุเอลา อิหร่าน หรือแม้กระทั่งรัสเซีย แต่ในตอนนี้ก็แทบไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่บ่งชี้ว่าประเทศเหล่านี้กำลังทำการสะสม Bitcoin อยู่เลย แต่มีอย่างน้อยประเทศหนึ่งที่ได้สร้าง Cryptocurrency ของตนเองแล้วเรียบร้อย

“ดังนั้นผมจึงคาดว่ามันจะเป็นการร่วงแบบทางเรียบ ไม่ใช่แบบทันทีทันใด… แต่ถึงยังไงมันก็ยังเป็นแค่ฟองสบู่ที่เกิดขึ้นจากความเข้าใจผิด เหมือนกับกระแสคลั่งทิวลิป อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยี Blockchain นั้นสามารถนำมาใช้ทำสิ่งดี ๆ ได้ เช่น ใช้ในการช่วยเหลือผู้อพยพให้สามารถติดต่อกับครอบครัวของพวกเขา และช่วยให้พวกเขาเก็บเงินของพวกเขาอย่างปลอดภัยได้” เขาได้กล่าวสรุป แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดต่อว่าพวกผู้อพยพจะใช้ Blockchain อย่างไรเพื่อที่จะทำสิ่งที่เขาได้อ้างไว้ในข้างต้นได้

และสุดท้าย เขาไม่ได้ให้คำตอบว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับ Cryptocurrency หรือไม่

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น