<?php wp_title('|', true, 'right'); ?>

แนวคิดใหม่ที่แก้ปัญหาสำหรับ Lightning Network ที่กำลังจะใช้งานกับ Bitcoin เร็ว ๆ นี้

ติดตามสยามบล็อกเชนบนSiam Blockchain

ถึงแม้ว่า Lightning Network ของ Bitcoin กำลังอยู่ในช่วงทดสอบ แต่ดูเหมือนว่า นักพัฒนา Bitcoin บางคนจะเริ่มหาทางแก้ปัญหาของเทคโนโลยีดังกล่าวเสียแล้ว

หลาย ๆ คนคาดหวังว่าการใช้ Lightning Network จะทำให้ Bitcoin มีประสิทธิภาพในการทำงานมากยิ่งขึ้น แต่จริง ๆ แล้ว ตัวเครือข่ายนั้นจำเป็นต้องให้ผู้ใช้เก็บข้อมูลไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้เกิดความยากลำบากในกระบวนการดาวน์โหลดและทำงาน

ปัญหาดังกล่าวส่งผลให้นักพัฒนา Lightning Network บางคนเริ่มหาวิธีแก้ เช่นนาย Laolu Osuntokun, นาย Christian Decker และนาย Rusty Russell พวกเขาได้เผยแพร่ข้อเสนอซึ่งเป็นทางเลือก ที่จะทำให้การทำธุรกรรม Off-chain เกิดได้ง่ายขึ้นโดยมีชื่อว่า “Eltoo

โดยข้อเสนอดังกล่าวนี้ ไม่ได้ช่วยลดขนาดของข้อมูลที่ผู้ใช้งานต้องเก็บไว้เท่านั้น แต่ยังเพิ่มความปลอดภัยให้กับเงินของพวกเขาขึ้นอีกด้วย

ยกตัวอย่างเช่น หากผู้ใช้ได้ทำการเผยแพร่ข้อมูลเก่าเข้าสู่ระบบโดยบังเอิญ พวกเขาอาจจะเสียเงินได้ เพราะสำหรับเครือข่าย Bitcoin ข้อมูลเหล่านั้นจัดว่าเป็น “ข้อมูลที่เป็นภัย”

นอกจากนี้ Eltoo ยังเก็บข้อมูลล่าสุดของข้อมูลการทำธุรกรรม Off-chain เท่านั้น ซึ่งจะแก้ปัญหาในกรณีที่ หากผู้ใช้งานเก็บข้อมูลไว้บนมือถือที่แล้วอุปกรณ์นั้นเกิดเสียขึ้นมา ข้อมูลที่เก็บไว้อาจจะหาหมดเลยก็ได้

แต่ด้วย Eltoo นั้น เราจะนำ “ข้อมูลเป็นภัย” ออกไปจากเครือข่ายได้ ซึ่งจะทำลดโอกาสที่ทำให้เงินของผู้ใช้สูญหายอีกด้วย

ซึ่งปัญหาดังกล่าวนั้นเคยเกิดกับนาย Decker มาแล้ว โดยเขาอธิบายว่า:

“ผมมี Node เก่าของ Lightning Network ในแล็ปท็อปของผม และผมไม่ทราบว่ามันไม่ใช่เวอร์ชั่นล่าสุด มีผู้ใช้งานคนนึงปิด Channel ของผมและเขา เนื่องจากเขารู้ว่าผมไม่ได้ใช้งานเวอร์ชั่นล่าสุด และเขาก็ขโมยเงินของผมไป”

การขาดการบังคับใช้

นักพัฒนาได้หาวิธีที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถทำธุรกรรมด้วย Bitcoin โดยที่ไม่ต้องสร้างข้อมูลที่ไม่จำเป็นให้กับเครือข่ายมาอย่างยาวนาน ซึ่งนั่นคือประเด็นหลัก ๆ ในการถกเถียงเรื่องการแก้ปัญหาด้าน Scaling ที่กำลังเผชิญกันอยู่

ความพยายามในการแก้ปัญหาครั้งแรกในประวัติศาสตร์ Bitcoin คือทดลองการทำธุรกรรมแบบ Off-chain ซึ่งใช้สิ่งที่เรียกว่า “เลขลำดับ” โดยมันจะคอยติดตามว่าการทำธุรกรรม Off-chain อันไหนนั้นเป็นอันล่าสุด

แนวคิดนั้นง่ายมาก ยกตัวอย่างเช่น ถ้าสมหญิงมีเงิน 10 บาท และส่งเงิน 1 บาท ให้กับสมชาย แน่นอนว่าบัญชีของเธอจะเหลือ 9 บาท ระบบจะให้เลขลำดับกับธุรกรรมนี้ว่าคือ “เลข 1” และในเวลาต่อมาสมหญิงส่งเงินให้สมชายอีก 4 บาท บัญชีของเธอจะเหลือ 5 บาท และธุรกรรมนี้จะกลายเป็นธุรกรรมที่เกิดขึ้นล่าสุดแทน และจะได้ “เลข 2” จากระบบ

อย่างไรก็ตาม อ้างอิงจากนาย Deker การทำงานดังกล่าวนั้นไม่สามารถใช้งานได้จริง เพราะว่านักขุดไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องทำตามกฎ และแทนที่ธุรกรรมเก่าด้วยธุรกรรมที่ใหม่กว่า

นักขุดแค่ต้องเผยแพร่ธุรกรรมที่บัญชีของสมหญิงเหลือ 9 บาท ทั้ง ๆ ที่ความเป็นจริงนั้นมีอีกธุรกรรมที่สมหญิงโอนเงินให้สมชายจนเหลือเงินในบัญชีเพียง 4 บาท สาเหตุที่เกิดปัญหาดังกล่าวอาจมาจากพวกเขาไม่มีแรงจูงใจในการทำ หรืออาจไม่มีอะไรมาบังคับให้ต้องทำตามก็เป็นได้ ซึ่งยังไม่เป็นที่แน่ชัด

ด้วยกรณีดังกล่าว อาจทำให้สมชายไม่ได้รับเงินของธุรกรรมหมายเลข 2 ของสมหญิง และสมหญิงอาจขโมยเงินนั้นไปเลยก็ได้

“การขาดการบังคับใช้” นั้นไม่ได้แก้มาจนกระทั่งปี 2015

และ Lightning Network นั้นเป็นวิธีแก้ปัญหาดังกล่าวที่ดีที่สุดในขณะนี้ ในปัจจุบันมีโมเดลสำหรับการลงโทษนาม “L2-penalty” โดย Lightning Wallet หรือ Node เป็นตัวกลางในการเก็บข้อมูลทั้งหมด ซึ่งหากใครพยายามที่จะเผยแพร่ข้อมูลเก่า ๆ ซึ่งไม่ได้เป็นความจริงเหมือนในปัจจุบัน ระบบจะตรวจจับ และผู้ใช้คนนั้นจะสูญเสียเงิน

Eltoo และ L2

ดูเหมือนว่าข้อเสนอล่าสุดนาม Eltoo นั้นจะเพิ่มขั้นตอนที่ทำให้ทุก ๆ ธุรกรรมใหม่นั้นถูกระบุไว้ตลอด ยกตัวอย่างเช่น สมหญิงส่งเงินให้สมชาย แต่เดิมที่นับเป็นหนึ่งธุรกรรมในระบบ จะนับเป็นสองธุรกรรมแทน โดยแต่ละฝ่ายจะบันทึกข้อมูลธุรกรรมล่าสุดของฝั่งตนลงไป

ได้มีโพสต์ในบล็อคได้อธิบายถึงข้อดีของ Eltoo ว่า:

“จะมีแต่ธุรกรรมล่าสุดเท่านั้นที่จะได้รับการยืนยัน ภายใน Blockchain

อ้างอิงจากโพสต์ดังกล่าว ข้อดีที่เห็นได้อย่างชัดเจนของระบบนี้คือมันช่วยแก้ปัญหาในการ Scaling ให้กับเครือข่าย หากนำ Eltoo มาใช้นั้น Ligtning Node แต่ละอันจะไม่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลตัวกลางอีกต่อไป โดยมันจะเก็บข้อมูลของธุรกรรมล่าสุดเท่านั้น เช่น ธุรกรรมการชำระบัญชีที่สอดคล้องกันและอาจจะมี HTLC ใช้จ่ายจากการตั้งถิ่นฐานดังกล่าว

ข้อดีอีกอย่างของ Eltoo คือมันไม่ได้สร้างบนโมเดลที่ “ผู้ชนะได้ทั้งหมดไป”

ถึงแม้จะยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ข้อเสนอดังกล่าวจะได้ใช้งานจริงหรือไม่ แต่นาย Decker นั้นตื่นเต้นเป็นอย่างมากเกี่ยวกับ Eltoo และความเรียบง่ายที่มันจะสร้างให้แก่ผู้ใช้ โดยเขาอธิบายว่า:

“เราไม่รู้อย่างแน่ชัดว่าระบบไหนดีกว่า แต่ผมคาดหวังว่า Eltoo นั้นจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ผมคิดว่ามันง่ายต่อการอธิบาย และขยายต่อไปในภายภาคหน้า”

อุปสรรคในการเขียนโค้ด

นอกเหนือจากการถกเถียงพิจารณาข้อเสนอว่าเหมาะสมหรือไม่แล้ว ยังมีอุปสรรคด้านเทคโนโลยีอีกอย่างที่ขวางทางอยู่นั่นก็คือ “sighash_noinput”

โค้ดดังกล่าวจำเป็นต้องถูกเพิ่มลงไปในฐานโค้ดของ Bitcoin เพื่อที่มันจะสามารถรองรับ Eltoo ได้

สำหรับคนที่ไม่ทราบ โค้ด sighash นั้นเป็นตัวที่บ่งบอกว่าส่วนไหนของธุรกรรมนั้น ๆ ต้องได้รับการลงนามจากเจ้าของหรือไม่ก่อนที่จะโอนไปให้กับผู้ใช้คนอื่น ยกตัวอย่างเช่น sighash_all จะเป็นตัวระบุว่าทุก ๆ ส่วนในธุรกรรมนั้นต้องได้รับการลงนาม ซึ่งแปลว่าทุก ๆ ส่วนของธุรกรรมนั้นจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

แต่ว่าโค้ด sighash_oninput นั้นจะทำให้ข้อมูล input ต่าง ๆ สามารถเข้าไปสู่ธุรกรรมได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีการลงนาม ซึ่งทำให้ข้อมูล input สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ตั้งแต่ที่ธุรกรรมนั้นเกิดขึ้นจนกระทั่งมันถูกบันทึกลงใน Blockchain

และนั่นคือสิ่งที่ Eltoo ต้องการเนื่องจาก แนวคิดของมันคือการที่ข้อมูลระหว่างจุดเริ่มต้นถึงจุดสิ้นสุดจะถูกลบ ซึ่งแปลว่า input จะมีความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่จุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุด

อย่างไรก็ตาม นาย Decker เองก็ไม่อาจทำนายได้ว่าข้อเสนอนี้จะถูกนำไปใช้จริงเมื่อไร

“หลังจากที่เหตุการณ์ SegWit เกิดขึ้น ผมก็ได้หยุดทำนายเรื่องพวกนี้ไปแล้วแหละ”

เขาชี้ให้เห็นว่าถึงแม้ SegWit จะได้รับเสียงสนับสนุนจากนักพัฒนาส่วนใหญ่ แต่มันก็ใช้วลานานหลายปีกว่าการโต้เถียงจะได้ข้อยุติภายในชุมชน และโค้ดพึ่งมีการเปลี่ยนแปลงในช่วงเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมาแทน ถึงแม้มันจะได้รับการยื่นเสนอมา 2 ปีก่อนหน้านั้นแล้วก็ตามแต่

ถึงแม้ข้อเสนอนี้อาจจะยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นเท่านั้นสำหรับการพิจารณา แต่นาย Decker กล่าวว่าการเพิ่มโค้ดลงไปในระบบของ Bitcoin นั้นสามารถทำได้ง่ายมาก

นอกจากนี้ ยังมีทฤษฎีอีกจำนวนมากที่ทำนายว่ามันจะส่งผลดีต่อกลุ่มนักพัฒนา และด้วยศักยภาพของมันนี้ มีผู้ใช้งานทวิตเตอร์จำนวนหนึ่งได้เพิ่มโค้ดลงไปที่โปรไฟล์ของพวกเขา เพื่อแสดงออกถึงการสนับสนุน ดังเช่น ช่วงที่ผ่านมาสำหรับเหตุการณ์ SegWit2X ที่ #No2X นั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

นาย Decker กล่าวทิ้งท้ายว่า และในทุก ๆ วัน  เขาค้นพบแนวทางใหม่ ๆ อยู่เรื่อย ๆ ที่ sighash_noinput สามารถนำไปใช้งานได้

กดคลิกเพื่อแสดงความเห็น